Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7029
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorกล้า ทองขาว, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorประชา ฤทธิผล, 2507-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.date.accessioned2023-06-30T08:07:20Z-
dc.date.available2023-06-30T08:07:20Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7029en_US
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของ ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช (2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ตาม ตําแหน่ง (3) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ตามขนาดสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จํานวน 48 คน เป็นครูผู้สอน จํานวน 155 คน ได้มา โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า ที่เกี่ยวกับความ คิดเห็น 6 หลัก คือ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักการมีส่วนร่วม หลักความโปร่งใส หลักความ รับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า (1) ผู้บริหารสถานศึกษา มีการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน สถานศึกษา ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านหลักนิติธรรมมีการใช้ อยู่ในระดับมาก เป็นอันดับแรก รองลงมา คือ หลักความรับผิดชอบ หลักคุณธรรม หลักความคุ้มค่า หลักการมีส่วนร่วม และหลักความโปร่งใส ตามลําดับ (2) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษา และ ครูผู้สอนเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ในภาพรวมและรายด้าน ทั้ง 6 ด้าน คือ ด้านหลักนิติธรรม หลัก คุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า พบว่า มี ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (3) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษา และ ครูผู้สอนที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาที่มีขนาดต่างกันเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมาภิบาลใน การบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ทั้ง 6 ด้าน คือ ด้านหลักนิติ ธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ไม่แตกต่างกันth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารการศึกษา -- การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectผู้บริหารโรงเรียน -- ไทย -- นครศรีธรรมราชth_TH
dc.subjectผู้บริหารโรงเรียน -- การบริหารth_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ -- บริหารการศึกษาth_TH
dc.subjectธรรมรัฐth_TH
dc.titleการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษานครศรีธรรมราชth_TH
dc.title.alternativeThe application of good governance principles in administration of vocational college administrators under the office of Nakhon Si Thammarat Vocational Educationth_TH
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Edu-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext_113507.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.82 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons