กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7806| ชื่อเรื่อง: | การศึกษาภาวะการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ กรณีบริษัทยูไนเต็ดมอเตอร์เวิกส์ (สยาม) จำกัด (มหาชน) |
| ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Study of learning organization : a case United Motor Works (Siam) Pcl |
| ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ธนชัย ยมจินดา บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สุดารัตน์ วาระโยธิน, 2503- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ |
| คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--การศึกษาเฉพาะกรณี การเรียนรู้องค์การ |
| วันที่เผยแพร่: | 2550 |
| สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
| บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาภาวะการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามแนวคิดของ Petler.Burgoyne & Boydell (2) เพื่อทำให้ทราบความคิดเห็นของพนักงานที่มีต่อองค์การเพื่อนำมาพัฒนาองค์การให้มีศักยภาพ และมีความสามารถในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือ พนักงานของบริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์เวิกส์ (สยาม) จำกัด (มหาชน) จำนวน 100 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล ใช้โปรแกรมทางสถิติ ซึ่งกำหนดระดับความเชื่อมั่นที่ระดับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าจำนวน ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบื่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทตสอบ (t-test.) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ผลการวิจัย (1) พบว่า พนักงานของบริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์เวิกส์ (สยาม) จำกัด (มหาชน) มีความคิดเห็นต่อภาวะการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ตามทฤษฎีของ Pedler.Burgoyne & Boydell ในแต่ละด้านอยู่ในระดับปานกลางโดยเรียงสำดับจากค่าเฉลี่ยสูงสุดไปต่ำสุด คือด้านกลยุทธ์ ด้านการมองภายในองค์การและโอกาสในการเรียนรู้ ด้านโครงสร้าง และสุดท้ายคือด้านการมองภายนอกองค์การ (2) ผลการทดสอบสมมุติฐาน ลักษณะส่วนบุคคลที่แตกต่างกันมีระดับความคิดเห็นต่อภาวะการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ไม่แตกต่างกันยกเว้น ลักษณะส่วนบุคคลในด้านอายุ สำหรับพนักงานที่มีอายุ 27-36 ปี และอายุ 37-46 ปี มีความคิดเห็นต่อภาวะการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ด้านการมองภายนอกองค์การแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
| URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7806 |
| ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Manage-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
| แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
|---|---|---|---|---|
| Fulltext_117773.pdf | 5.14 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License
