คุณภาพการบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของสำนักงานเลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทย

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับคุณภาพการบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของสำนักงานเลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทย 2) เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพการบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของสำนักงานเลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพการบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของสำนักงานเลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทย การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้รับบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของสำนักงานเลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทยจำนวน 205 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถามที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติดวามถี่ ร้อยละ คำเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีของ เซฟเฟ้ ผลการศึกบาพบว่า (1) การบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลในภาพรวมอยู่ในระคับมาก ด้านมิติความเป็นรูปธรรมของการบริการหรือรูปลักษณ์อยู่ระดับมากที่สุด รองลงมาได้แก่ มิติความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้ มิติการตอบสนองค์ต่อผู้รับบริการ มิติการให้ความมั่นใจแก่ผู้รับบริการ และมิติความเข้าใจและเห็นใจในผู้รับบริการ อยู่ในระดับมากตามลำตับ (2) การเปรียบเทียบคุณภาพการบริการ กลุ่มผู้รับบริการเพศแตกต่างกัน ระดับชั้นยศแตกต่างกัน และระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณภาพการบริการไม่แตกต่างกัน กลุ่มผู้รับบริการที่มือายุและมีตำแหน่งในหน่วยงานแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณภาพการบริการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (3) ข้อเสนอแนะได้แก่ ควรจัดสถานที่ให้กว้างขวางมากขึ้น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ จัดให้มีการบริการที่รวดเร็วขึ้นควรสร้างความเชื่อมั่น ความบริการและให้เป็นหน่วยงานที่น่าชื่อถือในค้านการบริการด้านสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล มีการประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิการเบิกงิน กฎระเบียบ กค. ให้กำลังพลได้รับทราบจากช่องทางต่าง ๆ และมีแผนภูมิแนะนำรายการขั้นตอนการขอรับบริการแสดงไว้ในบริเวณพื้นที่ให้บริการ เพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพิ่มพูนดวามรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริการกับเจ้าหน้าที่ให้สามารถตอบข้อสงสัยได้ทุกเรื่อง มีการจัดลำดับคิวในการให้บริการควรเอาใจใส่ดูแลผู้รับบริการกลุ่มอายุตั้งแต่ 30 ปีลงมาและกลุ่มที่มีตำแหน่งในสำนักงานผู้บังกับบัญชาให้มากขึ้น จัดให้มีที่นั่งรอและบริการน้ำดื่มกับผู้มาขอรับบริการที่มาจากสำนักงานที่อยู่ห่างไกลออกไป