ความคิดเห็นของผู้บริโภคสตรีวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อเครื่องสำอาง

Abstract

การศึกษาความคิดเห็นของผู้บริโภคสตรีวัยทำงานในเขตรุงเทพมหานครที่มีต่อ เครื่องสำอางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความคิดเห็นของผู้บริโภคสตรีวัยทำงานในเขต ก.ท.ม.ที่มีต่อเครื่องสำอาง (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากร ได้แก่ อายุ การศึกยา รายได้ อาชีพ สถานภาพสมรส กับความติดเห็นของผู้บริโภคสตรี และ (3) หาเหตุผลในการใชและไม่ใช้เครื่องสำอางของผู้บริโภคสตรีวิธีการศึกษาใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ ทำการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างคือ สตรีที่ทำงานในเขตกรุงเทพมหานครที่มีอายุตั้งแต่ 20-60 ปี จำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงพรรณา โดยใช้ค่าร้อยละ ค่เฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตราฐาน และใช้การทดสอบ Chi-squre ในการหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS จากกลุ่มตัวอย่างสตรีส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 34 ปี โดยมีสถานภาพโสด มีการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้ระหว่าง 10,001-20,000 บาทต่อเดือน มีอาชีพในบริษัทเอกชน สำหรับความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องสำอาง ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยอย่างมากในเรื่องจะใช้ครื่องสำอางที่พบว่าดีจะซื้อผลิตภัณฑ์นั้นอีก จะซื้อเครื่องสำอางขนาดเล็กมาทดลองใช้ก่อน การมีสินค้าให้ทดลองก่อนเป็นเหตุจูงใจในการซื้อ ซื้อเครื่องสำอางที่มียี่ห้อเป็นที่รู้จักในสังคม การลดราคาเป็นสิ่งจูงใจในการซื้อเครื่องสำอาง ซื้อเครื่องสำอางเพราะพนักงานขายต้อนรับและบริการดี ภาชนะที่บรรจุเป็นสิ่งที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อ และจะซื้อสินค้าที่มีเงื่อนไขถ้าใช้แล้วไม่พอใจสามารถคืนได้ การใช้เครื่องการศึกษาความคิดเห็นของผู้บริโภคสตรีวัยทำงานในเขตรุงเทพมหานครที่มีต่อ เครื่องสำอางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความคิดเห็นของผู้บริโภคสตรีวัยทำงานในเขต ก.ท.ม.ที่มีต่อเครื่องสำอาง (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากร ได้แก่ อายุ การศึกยา รายได้ อาชีพ สถานภาพสมรส กับความติดเห็นของผู้บริโภคสตรี และ (3) หาเหตุผลในการใชและไม่ใช้เครื่องสำอางของผู้บริโภคสตรีวิธีการศึกษาใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ ทำการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างคือ สตรีที่ทำงานในเขตกรุงเทพมหานครที่มีอายุตั้งแต่ 20-60 ปี จำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ สถิติเชิงพรรณา โดยใช้ค่าร้อยละ ค่เฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตราฐาน และใช้การทดสอบ Chi-squre ในการหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS จากกลุ่มตัวอย่างสตรีส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 34 ปี โดยมีสถานภาพโสด มีการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้ระหว่าง 10,001-20,000 บาทต่อเดือน มีอาชีพในบริษัทเอกชน สำหรับความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องสำอาง ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยอย่างมากในเรื่องจะใช้ครื่องสำอางที่พบว่าดีจะซื้อผลิตภัณฑ์นั้นอีก จะซื้อเครื่องสำอางขนาดเล็กมาทดลองใช้ก่อน การมีสินค้าให้ทดลองก่อนเป็นเหตุจูงใจในการซื้อ ซื้อเครื่องสำอางที่มียี่ห้อเป็นที่รู้จักในสังคม การลดราคาเป็นสิ่งจูงใจในการซื้อเครื่องสำอาง ซื้อเครื่องสำอางเพราะพนักงานขายต้อนรับและบริการดี ภาชนะที่บรรจุเป็นสิ่งที่สำคัญในการตัดสินใจซื้อ และจะซื้อสินค้าที่มีเงื่อนไขถ้าใช้แล้วไม่พอใจสามารถคืนได้ การใช้เครื่องสำอางตามโอกาสและสถานที่ที่จะไป การใช้เครื่องสำอางทำให้มีบุคลิกภาพดีขึ้น และการใช้เครื่องสำอางทำให้รู้สึกมั่นใจในตนเอง ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยข้อมูลส่วนบุคคลกับความคิดเห็นที่มีต่อเครื่องสำอางมีดังนี้คือ อายุมีความสัมพันธ์กับการซื้อเครื่องสำอางตามเพื่อน การซื้อเครื่องสำอางมียี่ห้อซึ่งเป็นที่รู้จักและการใช้เครื่องสำอางตาม โอกาสและสถานที่ที่จะไป ระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับการซื้อเครื่องสำอางที่มีราคาแพงทำให้เป็นที่ยอมรับในสังคม การใช้เครื่องสำอางทำให้มั่นใจในตนเอง การซื้อเครื่องสำอางที่ผลิตจากต่างประเทศเพราะคุณภาพจะดีกว่าที่ผลิตในประเทศกับความเชื่อว่าเครื่องสำอางราคาสูงจะทำให้มั่นใจได้ว่าใช้แล้วไม่แพ้หรือไม่เป็นอันตราย รายได้ อาชีพ สถานภาพสมรสไม่มีความสัมพันธ์กับความคิดเห็นที่มีต่อเครื่องสำอาง เหตุผลในการใช้เครื่องสำอางประเภทแต่งความงามเพราะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพ สำหรับเครื่องสำอางประเภทผิวพรรณ เพื่อทำความสะอาดและบำรุงผิว สำหรับเหตุผลในการไม่ใช้เครื่องสำอางเพราะไม่มั่นใจในคุณภาพ