Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8297
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorฐาปนา ฉิ่นไพศาลth_TH
dc.contributor.authorมัชฌพร ศิริทรัพย์, 2514-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.date.accessioned2023-07-27T08:01:01Z-
dc.date.available2023-07-27T08:01:01Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8297en_US
dc.description.abstractการศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องการแปลงสินทรัพเป็นหลักทรัพย์ในประเทศไทย มีวัถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงลักษณะของการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในประเทศไทย 2) ศึกษาถึงกระบวนการในการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และ 3) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาในการลงทุนในหุ้นกายใต้การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์วิธีการศึกษาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้ เป็นการศึกษาในเชิงพรรณนา โตยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย บทความทางวิชาการ เอกสารประกอบการสัมมนา ตำราวิชาการ ข้อมูลจากระบบอิเลดทรอนิคส์ ในส่วนของขอบเขตด้านระยะเวลาของข้อมูลที่เกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เป็นการรวบรวมข้อมูลหุ้นกู้ที่ออกในระหว่างปี 2547 ถึง เดือนกันยายน 2550 มาเป็นแนวทางประกอบการศึกษา การเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลผลการศึกษา พบว่า 1) การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นการออกภายใต้พระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 โดยสินทรัพย์ที่นำมาแปลงเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น ถูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์เป็นต้น ซึ่งสินทรัพย์ที่นำมาแปลงต้องมีกระแสเงินสดรายรับในอนาคตที่แน่นอน จากการรวบรวมข้อมูลของตราสารประเภทนี้ ตั้งแต่ปี 2347 ถึง เดือนกันยายน 2550 มูลค่าคงค้างมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ภาค เอกชน โดยคิดเป็นร้อยละ 5.96 โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืงที่ระดับสูงสุดหรือ "AAA" คิดเป็น 97.62% 2) กระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ผู้จำหน่ายสินทรัพย์จะรวบรวมกลุ่มลูกหนี้ของตน แล้วจำหน่ายกลุ่มลูกหนี้เหล่านี้ให้แก่นิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อที่นิติบุคคลเฉพาะกิจจะนำไปแปลงเป็นหลักทรัพย์เพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุน โดยก่อนการเสนอขายต้องให้สถาบันจัดอันดับความนำเชื่อถือประเมินความเสี่ยงและคุณภาพความนำเชื่อถือของกลุ่มถูกหนี้ที่นำมาแปลงเป็นหลักทรัพย์ก่อน 3) ปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาในการลงทุน ได้แก่ ความเสี่ยงจาก การลงทุนใน Securitization " ซึ่งผู้ลงทุนต้องพิจารณาถึงความเพียงพอของการเพิ่มคุณภาพความน่าเชื่อถือของตราสาร ความเสี่ยงจากการไม่ใด้รับชำระเงินต้น ความเสี่ยงจากการที่รายรับจากสิทธิเรียกร้องที่ผู้จำหน่ายสินทรัพย์ทำหน้าที่เป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ อาจปะปนอยู่กับรายรับของผู้จำหน่ายสินทรัพย์เอง ความเสี่ยงจากการบริหารกระแสรายให้จากสิทธิเรียกร้องให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ เพราะผู้ถือตราสาร Securitizaion จะไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ออกตราสารหนี้ชำระหนี้ที่เหลือได้อีก นอกจากนี้คุณภาพของสินทรัพย์ที่นำมาแปลง รวมทั้งการจัดสรรกระแสเงินคืนให้แก่ผู้ถือตราสารหนี้ก็เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนควรพิจารณา ในส่วนของผลิตผลตอบแทนจากการลงทุนนั้น มีองค์ประคอบที่สำคัญที่มีผลต่ออัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ ประกอบด้วย อัตราเงินเฟ้อ ความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้รับชำระคืน อายุของตราสาร อันดับความนำเชื่อถือ สภาพคล่องในการซื้อขาย ซึ่งอัตราผลตอบแทนของ Securitizatiion ก็เช่นกัน ถูกกำหนดจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกับตราสารหนี้ และอัตราผลตอบแทนที่ชดเชยสำหรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งความเสียงที่อาจจะได้รับชำระคืนก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้เงินที่นำไปลงทุนต่ออาจได้รับผลตอบแทนลดลง จากการศึกษาพบว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ที่อายุใกล้เคียงกัน และอันดับความน่าเชื่อถือระดับเดียวกัน หุ้นกู้ Securitization ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป นอกจากนี้นักลงทุนควรพิจารณาถึงสภาพคล่องในตลาดรองของ Securitization ซึ่งสภาพคล่องในปัจจุบันของหุ้นกู้ภายใต้การแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ยังคงมีสภาพคล่องค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจเกิดจากการที่โครงสร้างของตราสารประเภทนี้มีความซับซ้อนมากกว่าหุ้นกู้ทั่ว ๆ ไป แต่ทั้งนี้ แนวโน้มยังเป็นไปในทิศทางที่ดีการเติบโตยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 - เดือนกันยายน 2550 มีสัดส่วนมูลค่าคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นกู้ภาคเอกชน คิดเป็นร้อยละ 0.58% 3.71%. 5.94% และ 5.96% ตามลำดับth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceReformatted digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน--ไทยth_TH
dc.subjectหลักทรัพย์th_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจth_TH
dc.titleการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในประเทศไทยth_TH
dc.title.alternativeSecuritization in Thailanden_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Manage-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext_112705.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.57 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons