Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8376
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorรสคนธ์ รัตนเสริมพงศ์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorวรรณ์ดี แสงประทีปทอง, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorปภาวดี ประจักษ์ศุภนิติ, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorวิศัลยา พูพัฒนานุรักษ์, 2503--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-08-03T01:15:41Z-
dc.date.available2023-08-03T01:15:41Z-
dc.date.issued2549-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8376-
dc.description.abstractการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงศ์เพื่อ 1) ศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความพร้อมใน การปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฏิรูประบบราชการของพนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครอุดรธานี และ เทศบาลนครตรัง 2) เปรียบเทียบความดิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฎิรูป ระบบราชการของพนักงานเทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครอุดรธานี และเทศบาลนครตรัง 3) ศึกษาความ คิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคต่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฎิรูปประบบราชการของพนักงาน เทศบาลพิษณุโลก เทศบาลอุดรธานี และเทศบาลนครตรัง และ 4) เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาความพร้อมใน การปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฎิรูประบบราชการของพนักงานเทศบาล กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรเทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครอุดรธานี และเทศบาลนครตรัง จำนวน 254 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยทั้ง 7 ด้าน ได้แก่ (1) ความรู้ความเข้าใจในการทำงาน (2) การสนับสนุน การทำงานจากผู้บังคับบัญชา (3) การมีส่วนร่วมของพนักงาน (4) การสื่อสาร (5) การฝึกอบรม (6) เครื่องมือใน การทำงาน และ (7) ค่านิยมของบุคลากร ส่งผลต่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ในระดับมาก 2) ความดิดเห็น ของบุคลากรในแต่ละหน่วยงานเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่มีความนตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยเมื่อพิจารฌาเป็นรายปัจจัย พบว่าด้านเครื่องมือในการทำงาน ไม่แตกต่างกัน 3) ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญคือ พนักงานยึดติดกับค่านิยมในการทำงานแบบเดิมและระบบอุปถัมภ์ และพนักงาน ขาดทักษะ ความรู้ความเข้าใจในการทำงาน ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฎิรูประบบราชการของพนักงาน เทศบาล คือ การปลูกฝังให้มีความสามัคคีในหมู่พนักงาน การสร้างค่านิยมใหม่ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมีจิตสำนึกที่ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ผู้บริหารเป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณธรรมและจริยธรรม มีการอบรมพัฒนา ทักษะการทำงานของพนักงานให้มีความรู้ในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างต่อเนื่องและทั่วถึงth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2006.143en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ -- วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectเทศบาลนครพิษณุโลก -- พนักงานth_TH
dc.subjectเทศบาลนครอุดรธานี -- พนักงานth_TH
dc.subjectเทศบาลนครตรัง -- พนักงานth_TH
dc.subjectการทำงานth_TH
dc.titleปัจจัยที่ส่งผลต่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในยุคปฏิรูประบบราชการของพนักงานเทศบาล : กรณีศึกษาเทศบาลนครพิษณุโลก เทศบาลนครอุดรธานี และเทศบาลนครตรังth_TH
dc.title.alternativeFactors affecting the operational readiness of municipal officials in public sector reform period : a case study of Phitsanulok, Udon Thani, and Trang Municipalitiesth_TH
dc.typeThesisth_TH
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe objectives ofthis study were to 1) examine the opinion of Phitsanulok, Udon Thani, and Trang municipal officials concerning factors affecting Their operational readiness in public sector reform period 2) compare the opinions of Phitsanulok, Udon Thani, and Trang municipal officials concerning factors affecting Their operational readiness in public sector reform period 3) study the opinion of Phitsanulok, Udon Thani, and Trang municipal officials concerning the problems and obstacles of their operational readiness in public sector reform period and 4) recommend the appropriate approach to develop the operational readiness of municipal officials in public sector reform period The samples consisted of 254 municipal officials of Phitsanulok, Udon Thani, and Trang municipalities. The instrument used was questionnaire. The Statistics employed were percentile, mean and standard deviation, and one wav ANOVA. The research findings revealed that 1) all the 7 factors which were (1) job Knowledge and understanding, (2) supervisor support, (3) personnel participation. (4) communication, (5) training, (6) working equipment and (7) personnel value, affected the official operational readiness in high level 2) the opinion of officials in different municipalities concerning factors affecting factors operational readiness were different with 0.5 level of significance, when considered each factor. It was found that there was no difference in factor of working equipment 3) the important problems and obstacles were the personnel value of conventional way of working and the patronage system practiced in the offices, together with the lack of job skill, knowledge and understanding of municipal officials Recommendations to develop the operational readiness of municipal officials were : the indoctrination ot employee cohesiveness, the creation of new value in performing with people benefits as first priority, management should act as role model of those who performed with ethics and morality, and officials should be trained continuously and thoroughly so consequently all would develop suitable skill, knowledge and understanding in the duties assigneden_US
Appears in Collections:Manage-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
99021.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.25 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons