Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10088
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสุจินต์ วิศวธีรานนท์th_TH
dc.contributor.authorฉมานันท์ ไพรหลวง, 2533-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-10-30T04:14:49Z-
dc.date.available2023-10-30T04:14:49Z-
dc.date.issued2561-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10088en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (วิทยาศาสตร์ศึกษา))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2561th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลางที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาป็นฐาน และ (2) เปรียบเทียบจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนดังกล่าวที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง กรุงเทพมหานคร ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวน 81 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม แล้วส่มห้องเรียนหนึ่งได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ อีกห้องหนึ่งได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ และแบบวัดจิตวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์สูงกว่าของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนทั้งสองกลุ่มมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีจิตวิทยาศาสตร์สูงกว่าของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 โดยนักเรียนทั้งสองกลุ่มมีจิตวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกวิทยาศาสตร์ศึกษา--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectวิทยาศาสตร์--การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)--ไทย--กรุงเทพฯth_TH
dc.subjectการเรียนรู้แบบผสมผสานth_TH
dc.subjectการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้th_TH
dc.titleผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานในรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง กรุงเทพมหานครth_TH
dc.title.alternativeThe effects of inquiry learning management and problem based learning management in the basic science course on scientific problem solving ability and scientific mind of Mathayom Suksa III students at Mathayom Wat Bueng Thonglang School in Bangkok Metropolisen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were (1) to compare scientific problem solving ability of Mathayom Suksa III students of Mathayom Wat Bueng Thonglang School learning under the inquiry learning management with that of students learning under the problem based learning management; (2) to compare scientific mind of the students learning under the inquiry learning management with that of students learning under the problem based learning management. The research sample consisted of 81 Mathayom Suksa III students in two intact classrooms of 40 and 41 students at Mathayom Wat Bueng Thonglang School in Bangkok Metropolis during the first semester of the 2018 academic year, obtained by cluster random sampling. Then, one classroom was randomly assigned to learn under the inquiry learning management; while the other classroom, to learn under the problem based learning management. The research instruments used in this study were inquiry learning management plans; problem based learning management plans; a scientific problem solving test; and a scale to assess scientific mind. Data were analyzed using the mean, standard deviation, and ttest. The research findings revealed that (1) scientific problem solving ability of the students learning under the problem based learning management was significantly higher than the counterpart ability of students learning under the inquiry learning management at the .05 level; while the post-learning scientific problem solving ability scores of students in each of the two groups were significantly higher than their pre-learning counterpart scores at the .05 level; and (2) scientific mind of the students learning under the problem based learning management was significantly higher than the counterpart mind of students learning under the inquiry learning management at the .05 level; while the post-learning scientific mind scores of students in each of the two groups were significantly higher than pre-learning counterpart scores at the .05 level.en_US
dc.contributor.coadvisorทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์th_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
167083.pdfเอกสารฉบับเต็ม13.24 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons