Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10136
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | พาณี สีตกะลิน | th_TH |
dc.contributor.author | วันชัย พันศรี, 2518- | th_TH |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา | th_TH |
dc.date.accessioned | 2023-10-31T02:37:05Z | - |
dc.date.available | 2023-10-31T02:37:05Z | - |
dc.date.issued | 2561 | - |
dc.identifier.uri | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10136 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(บริหารโรงพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2561 | th_TH |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลองรูปแบบหนึ่งกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง ศึกษาระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2562 วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการบริหารจัดการในผู้ป่วยไตเรื้อรังที่มารับยาโรงพยาบาลชุมชน (2) พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการยาในผู้ป่วยไตเรื้อรังที่มารับยาโรงพยาบาลชุมชน และ (3) เปรียบเทียบผลของการบริหารจัดการยาของผู้ป่วยก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการยาในผู้ป่วยไตเรื้อรัง ประชากรที่ศึกษาในครั้งนี้ คือ ผู้ป่วยไตเรื้อรังที่มารับบริการที่คลินิกไตเรื้อรัง จำนวนทั้งหมด 468 คนสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) แบบสอบถามด้านความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการใช้ยาตามหลัก 5R (2) แบบสอบถามความร่วมมือในการใช้ยา มีค่าความตรงและค่าความเที่ยงที่ 0.82 และ 0.75 และ (3) โปรแกรมการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการยาในผู้ป่วยไตเรื้อรังที่มารับยาโรงพยาบาลชุมชน สถิติที่ใช้ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า (1) ก่อนการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการยาผู้ป่วย ผู้ป่วยมีความรู้ของยาถูกขนาดอยู่ในระดับน้อย มีทัศนคติเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ในรักษาระดับปานกลางและมีการปฏิบัติเรื่องรับประทานยาถูกเวลาในระดับปานกลาง และมีระดับการให้ความร่วมมือในการรักษาด้วยยาในระดับปานกลาง (2) เมื่อมีการการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการยาผู้ป่วย พบว่า ผู้ป่วยมีความรู้ของยาถูกขนาดเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับปานกลาง มีทัศนคติยาที่ใช้รักษาอยู่ในระดับสูง และมีการปฏิบัติเรื่องรับประทานยาถูกเวลาในระดับสูงและมีระดับการให้ความร่วมมือในการรักษาด้วยยาในระดับสูง และ (3) เมื่อเปรียบเทียบผลของการบริหารจัดการยาของผู้ป่วยก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมการพัฒนารูปแบบบริหารจัดการยาในผู้ป่วยไตเรื้อรัง ในภาพรวมผู้ป่วยมีความรู้ ทัศนคติ การปฏิบัติและความร่วมมือในการใช้ยาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ | th_TH |
dc.format | application/pdf | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
dc.source | Born digital | en_US |
dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกบริหารโรงพยาบาล --วิทยานิพนธ์ | th_TH |
dc.subject | ไต--โรค--การใช้ยา | th_TH |
dc.title | การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการยาของผู้ป่วยไตเรื้อรังในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี | th_TH |
dc.title.alternative | Development of drugs management model among patient chronic kidney disease at one community hospital of Udon Thani Province | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
dc.degree.discipline | สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ | th_TH |
dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.description.abstractalternative | This one group pretest-posttest quasi-experimental research was conducted from 1 June through 31 July 2019. The purposes of the study were to: (1) design a medication management model; (2) further develop the medication management model; and (3) compare the results of medication management before and after implementing the model, all among patients with chronic kidney disease at a community hospital in Udon Thani province. The study was conducted in a sample of 100 patients, purposively selected from all 468 patients with chronic kidney disease who attended the chronic kidney disease clinic at the community hospital. Study instruments included (1) a questionnaire on knowledge, attitudes and practice related to the principles of “Five Rights” in medication use, (2) a questionnaire on medication adherence with the reliability and validity values 0.82 and 0.75 respectively, and (3) a program on medication management model for patients with chronic kidney disease at community hospital. Data were collected and then analyzed to determine percentages, means, and standard deviations, and perform paired t-test. The results revealed that: (1) before implementing the medication management model, the respondents had a low knowledge level of medication dosages, a moderate level of medication attitudes, a moderate level of practice regarding medication time, and a moderate level of medication adherence; (2) after implementing the model, clients’ knowledge of medication dosages rose to a moderate level, medication attitudes to a high level, medication time to a high level, and medication adherence to a high level; and (3) after implementing the model, clients’ medication knowledge, attitudes and practice levels were significantly higher than before intervention | en_US |
dc.contributor.coadvisor | สมจิตต์ สุพรรณทัสน์ | th_TH |
Appears in Collections: | Health-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
165475.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.65 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License