Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10211
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorลัดคาวรรณ ณ ระนองth_TH
dc.contributor.authorวรรณรา พงษ์สินth_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-11-01T04:09:54Z-
dc.date.available2023-11-01T04:09:54Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10211en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (การแนะแนว))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบความมีวินัยในตนเองของกลุ่ม ทดลองก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยม และ (2) เปรียบเทียบผลของกลุ่มทดลองที่ใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยม และกลุ่มควบคุมที่ใช้โปรแกรมการให้ข้อสนเทศ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านบักดอง จังหวัด ศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2550 ได้มาจากการประเมินพฤติกรรมของนักเรียนที่ไม่มีวินัยในตนเองโดย ครูประจำชั้น จำนวน 30 คน แล้วจึงสุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 15 คน ผู้วิจัยดำเนินการกับกลุ่มทดลองโดยใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 12 ครั้ง ครั้งละ 50 นาที และกลุ่มควบคุมได้รับโปรแกรมการให้ข้อสนเทศ จำนวน 12 ครั้ง ครั้งละ 50 นาที เช่นเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) ชุดกิจกรรม แนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยมสำหรับกลุ่มทดลอง (2) โปรแกรมการให้ ข้อสนเทศสำหรับกลุ่มควบคุม (3) แบบวัดความมีวินัยในตนเองที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเที่ยง เท่ากับ .80 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการ ทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า (1) หลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎี พฤติกรรมนิยม นักเรียนกลุ่มทดลอง มีวินัยในตนเองเพิ่มมากกว่าก่อนการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนว ตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (2) นักเรียนกลุ่ม ทดลองที่ได้รับการฝึกด้วยชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยมมีวินัยใน ตนเองเพิ่มมากกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมที่ใช้โปรแกรมการให้ข้อสนเทศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2007.191en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการแนะแนว--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการแนะแนว--เครื่องมือth_TH
dc.subjectวินัยในโรงเรียนth_TH
dc.subjectนักเรียน--พฤติกรรมth_TH
dc.titleผลของการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามหลักการของทฤษฎีพฤติกรรมนิยม ที่มีต่อความมีวินัยในตนเองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านบักดอง จังหวัดศรีสะเกษth_TH
dc.title.alternativeThe effects of using an integrated guidance activities package based on the behaviorism theory on self-discipline of Pratom Suksa II students of Ban Bakdong School in Si Sa Ket Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2007.191-
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การแนะแนว)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this study were to: (1) compare self-disciplines of the experimental group prior to and after using an integrated guidance activities package based on the Behaviorism Theory; and (2) compare the self-discipline effect of the experimental group using the integrated guidance activities package based on the Behaviorism Theory with that of the control group using the provided information program. Si Sa Ket province who were judged as lacking self-discipline based on behavioral observation by their homeroom teachers. After that, they were randomly assigned into an experimental group and a control group each of which comprised 15 students. The experimental group used an integrated guidance activities package for 12 periods each of which taking 50 minutes; while the control group used the provided information program also for 12 periods of 50 minutes each. The employed research instruments were (1) an integrated guidance activities package based on the Behaviorism Theory for the experimental group, (2) a provided information program for the control group, and (3) a self-discipline assessment scale developed by the researcher with reliability of .80. Statistics for data analysis were the mean, standard deviation, and t-test. The research findings were (1) after using the integrated guidance activities package based on the Behaviorism Theory, the experimental group students' self-discipline was increased significantly at the .05 level; and (2) the experimental group students using the integrated guidance activities package based on the Behaviorism Theory had more self-discipline than that of the control group students using the provided information program at the .05 level of significance. The subjects were 30 Pratom Suksa II Students of Ban Bakdong School inen_US
dc.contributor.coadvisorนิธิพัฒน์ เมฆขจร, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม4.7 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons