กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10307
ชื่อเรื่อง: | ผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชต่อกรณีกัมพูชานำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลก |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Impact of Samak Sundaravej Government's policy upon the inscription of Cambodia's Preah Vihear Temple on the World Heritage List |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ สุพงศ์ ชยุตสาหกิจ, 2484- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการเมืองการปกครอง--การศึกษาเฉพาะกรณี การเมืองของโลก รัฐบาล--สมัยสมัคร สุนทรเวช--ไทย--นโยบายของรัฐ. การศึกษาอิสระ--รัฐศาสตร์ ไทย--ปัญหาชายแดน--กัมพูชา ประสาทหินเขาพระวิหาร. กัมพูชา--ปัญหาชายแดน--ไทย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี |
วันที่เผยแพร่: | 2553 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) กระบวนการตัดสินใจทางการเมืองของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อการกำหนดนโยบายสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา และ (2) ผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา วิธีดำเนินการวิจัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารและข่าวสารต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์เชิงเจาะลึก ประชากรของการวิจัยนี้ คือ กลุ่มนักการเมือง สมาชิกรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาสังคมและประชาชน ผู้ใด้รับผลกระทบ กลุ่มตัวอย่างสำหรับการสัมภาษณ์เชิงเจาะลึก คือบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการตัดสินใจ กำหนดนโยบาย ผู้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ผู้ตรวจสอบ ผู้สังเกตการณ์ และผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง วิเคราะห์ข้อมูลโดยอิงทฤษฎีระบบการเมือง และทฤษฎีกระบวนการนโยบายสาธารณะ ผลการวิจัยพบว่า (1) กระบวนการตัดสินใจทางการเมืองของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อกรณีดังกล่าวเป็นไปตามกลไกของระบบการเมืองแบบปัจจัยนำเข้า-นำออก โดยมีปัจจัยนำเข้าด้านความต้องการ คือ 1.1) ความต้องการนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา 1.2) ความต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยว ข้อง กับปราสาทพระวิหารในด้านต่างๆของไทย 1.3) ความต้องการรักษาสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ดีต่อกัมพูชาของไทย และมีปัจจัยนำเข้าด้าน เกื้อหนุน คือ 1.3.1 แนวปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 1.3.2 แนวคิดพรรครัฐบาลเสียงข้างมาก 1.3.3 การสนับสนุนขององค์กรระหว่างประเทศ และ 1.3.4 แนวคิดสนับสนุนของกลุ่มนักวิชาการและประชาสังคมบางกลุ่ม รัฐบาลพิจารณาตามกระบวนการนโยบายสาธารณะอย่างรวบรัด แล้วตัดสินใจกำหนดปัจจัยนำออก คือ นโยบายสนับสนุนให้กัมพูชานำตัวปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ทำให้ไทยสูญเสียสิทธิทางด้านเขตแดน โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนและดำเนินการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา การตัดสินใจดังกล่าวก่อให้เกิด การต่อต้านคัดด้านจากสภาพ แวดล้อมทางการเมืองอย่างกว้างขวางและรุนแรง แม้รัฐบาลจะรับเอาปัจจัยป้อนกลับเพื่อพิจารณาทบทวน และออกปัจจัยนำออกชุดใหม่ ก็ไม่สามารถรักษาดุลยภาพของระบบการเมืองไว้ได้ (2) การตัดสินใจทางการเมืองของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบ ดังนี้ 2.1) ผลกระทบทางการเมือง คือ ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล ความยากลำบากในการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการบนความขัดแย้งเชิงนโยบาย และความยากลำบากในการกล่อมเกลาทางการเมืองและการสื่อสารทางการเมือง 2.2) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ คือ ผลกระทบต่อ ธุรกิจการท่องเที่ยวและการค้าขายบริเวณชายแดน ต่อโครงการความร่วมมือไทย-กัมพูชา และต่อการค้าการลงทุนข้ามชาติระหว่างไทยกับกัมพูชา 2.3) ผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรม คือผลกระทบต่อความมั่นคงทางสังคมภายในและระหว่างประเทศ การสูญเสียโอกาสในการฟื้นฟูปูชนียสถานที่สำคัญร่วมกันและความเสี่ยงต่อการเกิดกระแสคลั่งชาตินิยมและ 2.4) ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือความเสื่อมทรามของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ผลกระทบต่อ จิตวิญญาณของอาเซียนที่จะรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน และความเสี่ยงต่อการสูญเสียสิทธิในดินแดนอย่างถาวร |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10307 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Pol-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
119970.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 18.96 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License