Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10390
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorวาสนา ทวีกุลทรัพย์th_TH
dc.contributor.authorศศิธร กษมากรณ์th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-11-10T02:32:54Z-
dc.date.available2023-11-10T02:32:54Z-
dc.date.issued2550-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10390en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์สาระ ธรรมชาติรอบตัว สำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 (2) ศึกษา ความก้าวหน้าทางการเรียนของเด็กปฐมวัยที่เรียนด้วยชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ และ (3) ศึกษาความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านโคกกร่าง เขตพื้นที่ การศึกษานครสวรรค์ เขต 3 ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 31 คน เลือก โดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) ชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ สาระธรรมชาติรอบตัว จำนวน 3 หน่วยประสบการณ์ คือ หน่วยประสบการณ์ที่ 2 การสำรวจ และการใช้ประโยชน์จากดิน หน่วยประสบการณ์ที่ 7 การเกิดฝน ประโยชน์และโทษของฝน และ หน่วยประสบการณ์ที่ 10 การสำรวจผลไม้ และการทำน้ำส้มคั้น (2) แบบทดสอบก่อนและหลัง เผชิญประสบการณ์แบบคู่ขนาน และ (3) แบบสอบถามความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อ ชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาประสิทธิภาพด้วย E,/E, การทดสอบค่าที ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า (1) ชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์ที่ผลิตขึ้นทั้ง 3 หน่วย ประสบการณ์มีประสิทธิภาพ 78.06/80.00, 77.59/79.20 และ79.03/81.67 ตามลำดับเป็นไปตาม เกณฑ์ 80/80 (2) เด็กปฐมวัยที่เรียนด้วยชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์มีความก้าวหน้าทาง การเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ(3) เด็กปฐมวัยมีความคิดเห็นชุด การสอนแบบอิงประสบการณ์ในระดับเห็นด้วยมากth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2007.37en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการศึกษาปฐมวัย--กิจกรรมการเรียนการสอนth_TH
dc.subjectการสอนด้วยสื่อth_TH
dc.titleชุดการสอนแบบอิงประสบการณ์สาระธรรมชาติรอบตัวสำหรับเด็กปฐมวัย เขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 3th_TH
dc.title.alternativeExperience-based instructional packages on the substance of surrounding nature for preschool children in Nakhon Sawan Educational Service Area 3th_TH
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2007.37-
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this study were three-fold: (1) to develop a set of experience-based instructional packages on the substance of Surrounding Nature for preschool children based on the 80/80 efficiency criterion; (2) to study the learning progress of preschool children learning from the experience-based instructional packages; and (3) to study the opinion of preschool children on the quality of experience-based instructional packages. The research sample consisted of 31 randomly selected second year kindergarten students who were studying in the second semester of the 2007 academic year at Ban Nong Leesaw School and Ban Koke Krang School in Nakhon Sawan Educational Service Area 3. Research tools comprised (1) three units of experience- based instructional packages on the substance of Surrounding Nature, namely, Unit 1: Survey and Utilization of Soil; Unit 7: Rain; and Unit 10: Survey of Fruits in the Community; (2) two parallel forms of an achievement test for pre-testing and post- testing; and (3) a questionnaire asking the students' opinion on the quality of the experience-based instructional packages. The employed statistics were the E1/E2 efficiency index, t-test, mean, and standard deviation. Research findings indicated that (1) the three units of experience-based instructional packages were efficient at 78.06/80.00, 77.59/79.20; and 79.03/81.67 respectively; thus meeting the set efficiency criterion of 80/80; (2) the learning progress of the students learning from the experience-based instructional packages was significantly increased at the .05 level; and (3) the opinion of the students on the quality of the experience-based instructional packages was at the highly appropriate level.en_US
dc.contributor.coadvisorชัยยงค์ พรหมวงศ์th_TH
dc.contributor.coadvisorอรุณี หรดาลth_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม15.2 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons