กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10714
ชื่อเรื่อง: | มาตราการกำหนดโทษปรับในคดีสิ่งแวดล้อม |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Standard of punishment in environmental case |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ภาณินี กิจพ่อค้า พุทธิพงษ์ สิริกุลวิวัฒ, 2532- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม --การศึกษาเฉพาะกรณี กฎหมายสิ่งแวดล้อม การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี |
วันที่เผยแพร่: | 2561 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่อง มาตรการกำหนดโทษปรับในคดีสิ่งแวดล้อมมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงลักษณะคดีสิ่งแวดล้อม ความเป็นมาของโทษปรับ แนวคิดการกำหนดโทษปรับตามวันและรายได้การวิเคราะห์ การกำหนดโทษปรับตามวันและรายได้ที่บังคับใช้ในประเทศฟินแลนด์ ประเทศสวีเดน ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวกับการนำโทษปรับตามวันและรายได้มาใช้ในคดีสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย โดยกำาหนดแนวทางและตัวบทกฎหมายในการนำโทษปรับตามวัน และรายได้มาใช้กับคดีสิงแวดล้อมของประเทศไทยให้เหมาะสมต่อไป การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเอกสาร แนวคำพิพากษาฎีกา บทบัญญัติ ทางกฎหมาย ตำราวิชาการ บทความ วิทยานิพนธ์ และเอกสารอื่น ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยนำรวบรวม วิเคราะห์ เปรียบเทียบและนำเสนออย่างเป็นระบบ เสนอแนะแนวทางเกี่ยวข้องกับมาตรการ ในการนำโทษปรับตามวันและรายได้มาใช้กับคดีสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า ลักษณะคดีสิ่งแวดล้อมมีความพิเศษแตกต่างจากคดีทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลักษณะของมูลคดีและผลที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและผลกระทบ ต่อประชาชนส่วนรวม จึงเป็นความผิดที่มีความร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง การลงโทษจึงต้องเหมาะสมและได้สัดส่วน กับความร้ายแรงของความผิด แต่โทษปรับในคดีสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเป็นโทษปรับแบบตายตัวไม่มี ความยืดหยุ่นทำให้โทษปรับไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งในประเทศ ฟินแลนด์ ประเทศสวีเดน และประเทศสหรัฐอเมริกา มีการนำโทษปรับตามวันและรายได้มาบังคับใช้ในคดีสิ่งแวดล้อม ทำให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับความร้ายแรงของความผิด ส่งผลให้โทษปรับในคดีสิ่งแวดล้อมของทั้ง 3 ประเทศ มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการ กำหนดโทษปรับตามวันและรายได้เป็นการกำาหนดโทษปรับให้เหมาะสมกับความร้ายแรงของความผิดและสถานภาพทางเศรษฐกิจของผู้กระทำความผิด ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ จำนวนวันปรับ, จำนวนรายได้ต่อหนึ่งวันปรับและจำนวนเงินค่าปรับทั้งหมดที่ต้องชำระ จึงทำให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับผู้กระทำความผิดในแต่ละราย เนื่องจากมีการนำรายได้ของผู้กระทำผิดมาพิจารณาควบคู่กับการกำหนดโทษปรับ ส่งผลให้โทษปรับตามวันและรายได้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์มากกว่าโทษปรับแบบตายตัวที่พิจารณาความร้ายแรงของความผิดเพียงอย่างเดียว ดังนี้น หากนำโทษปรับตามวันและรายได้มาบังคับใช้กับคดีสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยแทนโทษปรับแบบตายตัวที่บังคับใช้อยูในปัจจุบัน การบังคับใช้โทษปรับในคดีสิ่งแวดล้อม ยอมมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเต็มที่ |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10714 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 14.92 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License