Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10765
Title: | รูปแบบการจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืด โรงพยาบาลชุมชนระดับทุติยภูมิ จังหวัดสระบุรี |
Other Titles: | Self-management model for asthma patients at secondary community hospitals in Saraburi Province |
Authors: | บุญทิพย์ สิริธรังศรี, อาจารย์ที่ปรึกษา บุญสืบ โสโสม, อาจารย์ที่ปรึกษา พิณทอง จอมพุก, 2521- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล --วิทยานิพนธ์ ผู้ป่วยโรคหืด--การดูแล ผู้ป่วย--การดูแล |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์การจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืดโรงพยาบาลชุมชนระดับทุติยภูมิ จังหวัดสระบุรี 2) สร้างรูปแบบการจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืดและ 3) ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่าง คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง กลุ่ม 1 สำหรับวิเคราะห์การจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืด ได้แก่ แพทย์ 4 คน พยาบาล 4 คน เภสัชกร 4 คน และนักกายภาพบำบัด 4 คน และผู้ป่วย 4 คน และญาติ 4 คน กลุ่มที่ 2 สำหรับประเมินความเหมาะสมของรูปแบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย ผู้ให้บริการ 2 คน ผู้รับบริการ 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน รวม 7 คน เครื่องมือในการวิจัยมี 2 ชุด ได้แก่ (1) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเพื่อวิเคราะห์การจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืดสำหรับผู้ให้บริการและผู้รับบริการ มี 2 ส่วน และ (2) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบที่พัฒนาขึ้น เครื่องมือทั้ง 2 ชุด ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน มีค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาของชุดที่ 1 ส่วนที่ 1 และ 2 เท่ากับ 0.78 , 0.84 และชุดที่ 2 เท่ากับ 0.79 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ป่วยหอบหืดจำนวนหนึ่งยังมีความรู้และความสามารถไม่เพียงพอต่อการจัดกาการดูแลตนเองได้ และผู้ให้บริการ ครอบครัวและชุมชนจำเป็นต้องมีบทบาทสนับสนุนการจัดการการดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2) รูปแบบการจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืดประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) บทบาทผู้ให้บริการ (2) บทบาทของครอบครัวและชุมชนและ (3) บทบาทของผู้ป่วย และ 7 องค์ประกอบย่อย เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยจัดการการดูแลตนเองได้ได้แก่ (1) การจัดบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงจากโรงพยาบาลสู่บ้าน (2) การทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ โดยให้ผู้ป่วยหรือญาติร่วมตั้งเป้าหมาย (3) พัฒนาระบบการลงบันทึกข้อมูลผู้ป่วยหอบหืดและนำผลมาวิเคราะห์มาใช้กับผู้ป่วย (4) พัฒนาแนวปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยหอบหืด และแนวทางการให้สุขศึกษาผู้ป่วยหอบหืด (5) พัฒนาสมรรถนะพยาบาลในการจัดการรายกรณีผู้ป่วยหอบหืด (6) ส่งเสริมการจัดการการดูแลตนเองของผู้ป่วยในด้านการออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และด้านการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพ และ (7) ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการการดูแลตนเองของผู้ป่วย และร่วมพัฒนาสิ่งแวดล้อม และ 3) ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการการดูแลผู้ป่วยหอบหืด พบว่า มีความเหมาะสมโดยรวมร้อยละ 84.53 |
Description: | วิทยานิพนธ์ (พย.ม.(การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2562 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10765 |
Appears in Collections: | Nurse-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.63 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License