กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11328
ชื่อเรื่อง: การใช้สารเคมีเพื่อการป้องกันและกาจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัยสำหรับการปลูกผักของกลุ่มเกษตรกรในอำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Safely chemical application for vegetable pest control by farmers in Khun Tan district of Chiang Rai Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สุนันท์ สีสังข์, อาจารย์ที่ปรึกษา
ธำรงเจต พัฒมุข, อาจารย์ที่ปรึกษา
ศิวิรุฬห์ พีระเชื้อ, 2534-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ: สารฆ่าศัตรูพืชและสัตว์
สารฆ่าวัชพืช
วันที่เผยแพร่: 2564
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) ความรู้ของเกษตรกร เกี่ยวกับการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย 3) การปฏิบัติของเกษตรกรในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย 4) ปัญหาและความต้องการของเกษตรกรเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชผักอย่างปลอดภัย ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุเฉลี่ย 50.49 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ปวช. จำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 2.55 คน ประสบการณ์ในการปลูกผักและการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชผักเฉลี่ย 31.46 ปี เกษตรกรส่วนใหญ่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกร โดยเกษตรกรครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้รับแหล่งข้อมูลความรู้ในระดับบ่อยๆ จาก อินเตอร์เน็ต จำนวนแรงงานในครัวเรือนที่ใช้ในการปลูกผักเฉลี่ย 1.45 คน มีการใช้แรงงานจ้างเพียงบางราย พื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดเฉลี่ย 7.22 ไร่ เป็นของตนเอง พื้นที่ในการปลูกผักเฉลี่ย 2.10 ไร่ ในรอบปีการผลิตที่ผ่านมา เกษตรกรมีรายได้จากการปลูกผักเฉลี่ย 4,385.83 บาทต่อรอบการผลิต รายจ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการปลูกผักเฉลี่ย 1,525.20 บาท รายจ่ายในการซื้อสารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผักเฉลี่ย888.19 บาท 2) เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในระดับมาก 3) เกษตรกรมีการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเป็นประจำ เกษตรกรทุกรายใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ส่วนใหญ่ใช้สารกำจัดแมลง 1 ครั้งต่อฤดูการผลิต ร้อยละ 7.9 เคยแพ้สารเคมี 4) เกษตรกรมีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อสารเคมีในระดับมาก ส่วนความรู้ การปฏิบัติ และการเก็บรักษาสารเคมี อยู่ในระดับปานกลาง โดยเกษตรกรมีความต้องการให้ภาครัฐควรมีการควบคุมราคาของสารเคมี จัดหาสารเคมีทีมีคุณภาพให้แก่เกษตรกร การจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้องและปลอดภัย อีกทั้งควรส่งเสริมทางเลือกในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีการอื่น ๆ ทดแทนการใช้สารมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม.(ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2564
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11328
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม16.24 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons