กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11544
ชื่อเรื่อง: ผลของโปรแกรมโภชนศึกษาโดยประยุกต์ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคมต่อความรู้ และพฤติกรรมบริโภคอาหารของผู้ป่วยในที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Effects of nutrition education program by applying social support theory based on food knowledge and consumption behavior among acute coronary syndrome in-patients at Naresuan University Hospital
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: วิมลิน ริมปิกุล
นฤมล ศิริรัตนพงศ์ธร, 2522-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
สำอาง สืบสมาน
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชามนุษยนิเวศศาสตร์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกการจัดการระบบอาหารเพื่อโภชนาการ--วิทยานิพนธ์
ระบบหัวใจและหลอดเลือด--โรค--แง่โภชนาการ
วันที่เผยแพร่: 2563
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับแรงสนับสนุนทางสังคม (2) ศึกษาระดับความรู้ด้านอาหาร (3) สำรวจพฤติกรรมบริโภคอาหาร (4) เปรียบเทียบความรู้ด้านอาหาร และ (5) เปรียบเทียบพฤติกรรมบริโภคอาหารของผู้ป่วยในที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรก่อนและหลังการให้โปรแกรมโภชนศึกษาโดยประยุกต์ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยในที่มีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จากประชากรผู้ป่วยภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในปี 2563 ทั้งหมด 141 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 – มีนาคม 2564 จำนวน 78 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบกลุ่มละ 39 คน โดยใช้เทคนิคในการจับคู่ที่มีลักษณะคล้ายกันมากที่สุด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และโปรแกรมโภชนศึกษาประยุกต์ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบที ผลการวิจัย (1) แรงสนับสนุนทางสังคมก่อนการทดลองของทั้งสองกลุ่มอยู่ระดับต่ำ หลังการทดลองพบว่า แรงสนับสนุนทางสังคมของกลุ่มเปรียบเทียบเพิ่มขึ้นเป็นระดับปานกลาง กลุ่มทดลองเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูง (2) ระดับความรู้ด้านอาหารก่อนการทดลองทั้งสองกลุ่มอยู่ระดับต่ำ หลังทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีความรู้เพิ่มเป็นระดับสูง กลุ่มเปรียบเทียบมีความรู้อยู่ระดับปานกลาง (3) ก่อนการทดลองของทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมบริโภคอาหารทอด ผัด เนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน และขนมหวาน หลังการทดลอง พบว่า ทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงดีขึ้น คือ ลดกินอาหารทอดและของหวาน เลือกกินปลาหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดหนังติดมันมากขึ้น (4) ก่อนการทดลองทั้งสองกลุ่มมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้ด้านอาหารในระดับต่ำไม่แตกต่างกัน หลังการทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (5) ก่อนการทดลอง กลุ่มทดลองมีพฤติกรรมบริโภคอยู่ระดับปานกลางและมีค่าเฉลี่ยไม่แตกต่างจากกลุ่มเปรียบเทียบ หลังการทดลอง พบว่า ทั้งสองกลุ่มมีพฤติกรรมบริโภคอยู่ระดับดี แต่กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการระบบอาหารเพื่อโภชนาการ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2563
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11544
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Hum-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม15.45 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons