Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11676
Title: ปัจจัยกำหนดการออมของครัวเรือนในประเทศไทย พ.ศ.2534 - 2548
Other Titles: Factors determining household saving in Thailand B.E. 2534 - 2548
Authors: พอพันธ์ อุยยานนท์
ศศิธร ทิพย์ชำนาญ, 2524-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
ศิริพร สัจจานันท์
Keywords: การประหยัดและการออม--ไทย
ครัวเรือน--ไทย--แง่เศรษฐกิจ
Issue Date: 2551
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษารูปแบบการออมและพฤติกรรมการออมของครัวเรือนในประเทศไทย (2) เพื่อศึกษาลักษณะและแนวโน้มการออมของครัวเรือนไทยรวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างการออมของครัวเรือนและการออมสุทธิในประเทศไทย (3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการออมของภาคครัวเรือนในประเทศไทยในระหว่างปีพ.ศ.2534 - พ.ศ.2548 ผลจากการศึกษาพบว่า (1) พฤติกรรมการออมของภาคครัวเรือนในช่วงดังกล่าวอัตราการออมของภาคครัวเรือนลดลงมาโดยตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 และลดลงอย่างมากหลังวิกฤติเศรษฐกิจปีพ.ศ.2540 (2)เนื่องจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เริ่มมีการรณรงค์และส่งเสริมการออมมากขึ้นในปี พ.ศ.2546 ทำให้แนวโน้มการออมภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนสูงขึ้น ทำให้อัตราการขยายตัวการออมเริ่มลดลงเนื่องจากมีการดึงเงินไปใช้ในภาคธุรกิจอื่นและประชาชนเริ่มมีการใช้จ่ายมากขึ้น (3) ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการออมของครัวเรือนในประเทศไทย พบว่า รายได้ที่ใช้จ่ายจริงต่อหัว และสินทรัพย์สุทธิมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับปริมาณการออมร้อยละ 98.9 และร้อยละ 93.6 ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีรายได้สมบูรณ์ของเคนส์ รวมทั้งวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการออม่ของภาคครัวเรือนร้อยละ 92.6 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ณระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อและอัตราพึ่งพิงมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับปริมาณการออมของภาคครัวเรือน
Description: วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11676
Appears in Collections:Econ-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
114887.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.04 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons