กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11897
ชื่อเรื่อง: พฤติกรรมการออมของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Saving behavior of Samut Songkhram Public Health Saving Cooperative Limited’s members
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ฐาปนา ฉิ่นไพศาล, อาจารย์ที่ปรึกษา
วราพร ฤทธิ์เดช, 2523-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
คำสำคัญ: การประหยัดและการออม
การศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจ
วันที่เผยแพร่: 2561
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ) ศึกษาพฤติกรรมการออมเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด 2) ศึกษาด้านความรู้ความเข้าใจในการออมทางด้านปัจยส่วนบุคคลและลักษณะ ทางเศรษฐกิจครัวเรือน 3) ศึกษาค้านความเชื่อการออมทางด้านปัจจัยส่วนบุคคลและลักษณะทางเศรษฐกิจ ครัวเรือน 4) ศึกษาด้านพฤติกรรมการออมทางด้านปัจจัยส่วนบุคคลและลักษณะทางเศรษฐกิจครัวเรือน การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรในการศึกษา คือ สมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด ที่มาใช้บริการด้านการรับฝากเงิน มีจำนวน 678 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยเลือกแบบบังเอิญ จำนวน 252 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเยี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบคำ t - test. Onc-way ANOVA และทคสอบความแตกต่าง รายคู่ด้วยวิธี LSD ผลการศึกษา พบว่า (1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป สถานภาพสมรส การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพรับราชการ มีพฤติกรรมการออม คือ มีการฝากออมทรัพย์ อย่างสม่ำเสมอ (2) ด้านความรู้ความเข้าใจในการออมทางด้านปัจจัขส่วนบุคลและลักษณะทางเศรษฐกิจครัวเรือน พบว่า สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขสมุทรสงคราม จำกัด มีความรู้ความเข้าใจในการออมทรัพย์ เป็นอย่างดี การออมทรัพย์เป็นการลดความเสี่ยงทางการเงิน อัตราผลตอบแทนเป็นเหตุผลหลักในการตัดสินใจ เลือกรูปแบบการออม (3) ค้านความเชื่อการออมทางค้านปัจจัยส่วนบุคคลและลักษณะทางเศรษฐกิจครัวเรือน คือ เชื่อว่าการออมทรัพย์คือการสร้างความมั่นคงทางการเงิน ให้กับตนเองและครอบครัว อัตราผลตอบแทน มีความแน่นอนมากกว่าการออมนอกระบบ (4) ด้านพฤติกรรมการออมทางด้านปัจจัยส่วนบุคคลและลักษณะ ทางเศร ษฐกิจครัวเรือน พบว่า เพศ ระดับการศึกษาแตกต่างกันส่งผลต่อพฤติกรรมการออมในด้านความรู้/ ความเข้าใจในการออม แตกต่างกัน ส่วนอายุ ระยะเวลาการเป็นสมาชิก และจำนวนหุ้นในสหกรณ์แตกต่างกัน ส่งผลต่อพฤติกรรมการออมในด้านความเชื่อการออมแตกต่างกัน ขณะที่สถานภาพ อาชีพแตกต่างกันส่งผล ต่อพฤติกรรมการออมแตกต่างกัน อีกทั้งรายจ่าขครัวเรือนรวมต่อเดือนและมีหนี้สินแตกต่างกันส่งผลต่อพฤติกรรม การออมในด้านความเชื่อการออมแตกต่างกันและจำนวนสมาชิกในครัวเรือนแตกต่างกันส่งผลต่อพฤติกรรม การออมทุกด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11897
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
159665.pdfเอกสารฉบับเต็ม11 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons