Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12087
Title: | การคุ้มครองสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนจากสัญญาทางปกครองที่ไม่เป็นธรรม |
Other Titles: | Protection the rights of private parties in contracts administrative |
Authors: | อิงครัต ดลเจิม ศุภกร ขอนทอง, 2537- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี สัญญา การศึกษาอิสระ--กฎหมายมหาชน |
Issue Date: | 2563 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาแนวคิดและหลักการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสัญญาทางปกครอง (2) ศึกษาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัญญาทางปกครองในประเทศไทยกับสาธารณรัฐฝรั่งเศสและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (3) วิเคราะห์การคุ้มครองสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนในสัญญาทางปกครอง (4) เสนอแนะแนวทางการคุ้มครองสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนในสัญญาทางปกครอง การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีวิจัยทางเอกสาร จากตำรา บทความ วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ รายงานการวิจัย วารสารเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนจากสัญญาทางปกครองที่ไม่เป็นธรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผลการวิจัยพบว่า แนวคิดและหลักการที่เกี่ยวข้อง คือ หลักการทางกฎหมายเกี่ยวกับการบริการสาธารณะและสัญญาทางปกครองในประเทศไทยและต่างประเทศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีหลักเกณฑ์ในรัฐบัญญัติว่าด้วยมาตรการบังคับในชั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ค.ศ. 1953 สาธารณรัฐฝรั่งเศสมีหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละกรณี เช่น รัฐกฤษฎีกาลงวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ.1985 และประเทศไทยปรากฏหลักเกณฑ์ในพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง การคุ้มครองสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนจากสัญญาทางปกครอง (การจัดซื้อจัดจ้าง) ที่ไม่เป็นธรรม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีกำหนดให้สัญญาทางปกครองที่คู่สัญญามีฐานะไม่เท่าเทียมกันจะมีผลเป็นโมฆะ คู่สัญญาฝ่ายรัฐจึงไม่มีเอกสิทธิ์ สาธารณรัฐฝรั่งเศสกฎหมายกำหนดให้สิทธิของคู่สัญญาฝ่ายเอกชนในการแก้ไข เปลี่ยนแปลงสัญญาทางปกครอง นอกจากการมีกระบวนการร้องเรียนภายในฝ่ายปกครอง แตกต่างจากประเทศไทยที่ไม่มีบทบัญญัติกำหนดสิทธิและวิธีการให้คู่สัญญาที่เป็นเอกชนขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสัญญาและยกเลิกสัญญาทางปกครองที่ไม่เป็นธรรมได้อย่างชัดเจน จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 และมาตรา 103 โดยเพิ่มวรรคกำหนดให้ผู้มีอำนาจที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเลิกสัญญาต้องจัดให้มีการเจรจาตกลงกันก่อน และมีบทบัญญัติให้คู่สัญญาฝ่ายเอกชนขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงและเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องฟ้องศาลก่อน โดยกำหนดคำนิยาม เหตุสุดวิสัยให้ชัดเจนสอดคล้องกับหลักการบริการสาธารณะ |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12087 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 11.35 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License