กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12126
ชื่อเรื่อง: | พฤติกรรมการเปิดรับสื่อภายในของพนักงานการประปานครหลวง |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Exposure to internal media among the metropolitan waterworks authority |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ธิติพัฒน์ เอี่ยมนิรันดร์ เสริมพงศ์ หาญชเล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิเทศศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิเทศศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี การสื่อสารในองค์การ |
วันที่เผยแพร่: | 2549 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) พฤติกรรมการเปิดรับสื่อภายในของ พนักงานการประปานครหลวง (2) เหตุผลในการเปิดรับสื่อภายในของพนักงานการประปานครหลวง และ (3) นำผลการศึกษาที่ได้มาวิเคราะห์และกำหนดใช้สื่อที่เหมาะสมสำหรับการสื่อสาร ภายในประปานครหลวงการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิง สำรวจทำการเก็บข้อมูลระหว่างเดือน มีนาคม -เมษายน 2550 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานการประปานครหลวง จำนวน 400 คน โดยวิธีการสุ่มแบบง่าย รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามปลายปิดและแบบสอบถามปลายเปิดผลการศึกษาเป็นดังนี้ (1) ช่วงเวลาในการเปิดรับสื่อภายในของพนักงานการประปา นครหลวง ส่วนมาก คือ ตั้งแต่เวลา 8.00 น. -13.00 น. พนักงานการประปานครหลวงได้รับสื่อในจำนวนที่น้อยมากคือ 1 - 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ และสื่อที่ได้รับมากที่สุดใน 1 สัปดาห์คือ หนังสือเวียนดังนั้นจึงควรพัฒนาสื่อ หนังสือเวียน ให้มีความรวดเร็วและมีปริมาณเพิ่มมากยิ่งขึ้น(2) เหตุผลในการเปิดรับสื่อของพนักงานการประปานครหลวงเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกระเบียบ และ เพื่อทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายของผู้บริหาร มากที่สุด รองลงมา คือ เพื่อทราบข้อมูลข่าวสารการเกี่ยวกับโบนัสและสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร สามคือ เพื่อรับทราบข่าวสารที่มีผลกระทบต่อองค์กรและเพื่อรับทราบถึงการแต่งตั้งและโยกย้ายตำแหน่งงาน (3) สื่อที่เหมาะสมสำหรับการประปานครหลวงคือหนังสือเวียน อินทราเน็ต และภาพข่าวประชาสัมพันธ์ และกลุ่มตัวอย่างส่วนมากมีความเห็นควรจะเพิ่มสื่อเสียงตามสายด้วย |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12126 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Comm-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
114802.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 5.38 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License