Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12199
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorมาลี สุรเชษฐth_TH
dc.contributor.authorชรินทร์ ดึงประโคนth_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์th_TH
dc.date.accessioned2024-06-10T07:23:56Z-
dc.date.available2024-06-10T07:23:56Z-
dc.date.issued2554-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12199en_US
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวคิดการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในการเรียกให้ ลูกหนี้ชำระหนี้ ในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งศึกษาแนวทางการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดกรณีการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในประเทศไทย และศึกษาการใช้สิทธิของเจ้าหนี้ในการเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ของประเทศไทย การศึกษาวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเอกสาร ศึกษาจากประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 5 ,420,421 และร่างพระราชบัญญัติการติดตามทวงถามหนี้ที่เป็นธรรม แนวปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ของสำนักนโยบายความเสี่ยงของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งหนังสือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ทั้งของประเทศไทยและของต่างประเทศ โดยศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายไทยพร้อมทั้งวิเคราะห์ สรุป เพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการปรับปรุง บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการใช้สิทธิเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้โดยไม่สุจริตต่อไป จากการศึกษาพบว่า การพิจารณาความรับผิดของเจ้าหนี้ในการใช้สิทธิเรียกให้ลูกหนี้ ชำระหนี้โดยไม่สุจริตนั้น จะพิจารณาเจตนาของเจ้าหนี้เป็นหลัก ว่าการกระทำของเจ้าหนี้มีเจตนาร้าย โดยจงใจแกล้งให้เกิดความเสียหายแต่ถ่ายเดียวหรือไม่ และพิจารณาว่าการกระทำสมเหตุสมผลกับหลักการใช้สิทธิโดยสุจริตหรือไม่ การกระทำนั้นก่อผลร้ายแรงกับลูกหนี้เพียงใดเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่เจ้าหนี้จะได้รับจากการกระทำของตน ดังนั้น ถ้าเจ้าหนี้ได้กระทำการโดยเข้าหลักเกณฑ์ข้างต้นแล้ว ถือว่าเจ้าหนี้ได้ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตอันเป็นการกระทำซึ่งมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายและเป็นละเมิด ซึ่งจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายธุรกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณีth_TH
dc.subjectลูกหนี้และเจ้าหนี้th_TH
dc.subjectการศึกษาอิสระ--กฎหมายธุรกิจth_TH
dc.titleการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต : ศึกษาเฉพาะกรณีการใช้สิทธิเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้th_TH
dc.title.alternativeExercising rights in bad faith : particular case study of exercising rights to ask debtors to pay back their depten_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameนิติศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชานิติศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe study aims to study: 1) the concept of exercising rights in bad faith debtors in Thailand and abroad pay their debts; 2) ways to enforcing the law conceming liabilities of exercising right in bad faith in Thailand; and 3) exercising rights of creditors to have debtors pay their debts of Thailand. This qualitative research studied documents on Civil and Commercial Code especially article 5,420, and 421 the draft of Fair Debt collection Practices Act, debts collection guidelines of the Risk Policy Department of the Bank of Thailand and books on laws of exercising right in bad faith in Thailand and aboard. A comparative study of Thai laws concerning exercising rights in bad faith to have debtors pay back their debts. In this study, it was found that consideration of creditor's liabilities to ask debtors to pay their debts in bad faith was based on whether creditor's intention that if his deed was bad intention to cause damages to debtors, whether creditors reasonably exercised their rights to ask for payment from debtors, the level of damages to debtors caused by creditors compared to benefits gained by creditors. If creditor's actions matched the above criteria, they had exercise the right in bad faith that cause damages to debtors and were liable for damages suffered by debtors.en_US
Appears in Collections:Law-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
129111.pdfเอกสารฉบับเต็ม13.58 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons