Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12274
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorดวงเดือน สุวรรณจินดาth_TH
dc.contributor.authorวริษฐา แหวนเพชรth_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2024-06-20T02:42:17Z-
dc.date.available2024-06-20T02:42:17Z-
dc.date.issued2562-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12274en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (วิทยาศาสตร์ศึกษา))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2562th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานกับของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการสอนด้วยวิธีสอนแบบปกติ (3) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน และ (4) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานกับของนักเรียนกลุ่มที่ได้รับการสอนด้วยวิธีสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 78 คน จาก 2 ห้องเรียนของโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีสอนแบบปกติ (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ (4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยวิธีสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (3) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (4) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์สูงกว่าของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยวิธีสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectวิทยาศาสตร์th_TH
dc.subjectการศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)th_TH
dc.subjectการเรียนแบบมีส่วนร่วมth_TH
dc.subjectการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นฐานth_TH
dc.subjectการวางแผนหลักสูตรth_TH
dc.titleผลการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ จังหวัดนครปฐมth_TH
dc.title.alternativeThe effects of science learning management using problem-based learning on science learning achievement and scientific problem solving ability of Mathayom Suksa II students of extra large schools in Nakhon Pathom Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were (1) to compare the pre-learning and post-learning achievements of the group of students who learned under the science learning management using problem-based learning; (2) to compare learning achievement of the group of students who learned under the science learning management using problem-based learning with that of the group of students who were taught with the conventional teaching method; (3) to compare the pre-learning and post-learning scientific problem solving abilities of the group of students who learned under the science learning management using problem-based learning; and (4) to compare scientific problem solving ability of the group of students who learned under the science learning management using problem-based learning with that of the group of students who were taught with the conventional teaching method. The sample of this study consisted of 78 Mathayom Suksa II students in two intact classrooms of Phrapathom Wittayalai School in Nakhon Pathom province during the first semester of the 2019 academic year, obtained by cluster random sampling. The instruments used in this research were (1) learning management plans for the science learning management using the problem-based learning, (2) learning management plans for the traditional teaching method, (3) a learning achievement test, and (4) a scientific problem solving ability test. Statistics used for data analysis were the mean, standard deviation, and t-test. The results of this research were as follows: (1) the post-learning achievement of the students who learned under the science learning management using problem-based learning was significantly higher than their pre-learning counterpart achievement at the .01 level; (2) the learning achievement of the students who learned under the science learning management using problem-based learning was significantly higher than the counterpart learning achievement of the students who were taught with the conventional teaching method at the .01 level; (3) the post-learning scientific problem solving ability of the students who learned under the science learning management using problem-based learning was significantly higher than their pre-learning counterpart scientific problem solving ability at the .01 level; and (4) the scientific problem solving ability of the students who learned under the science learning management using problem-based learning was significantly higher than the counterpart scientific problem solving ability of the students who were taught with the conventional teaching method at the .01 level.en_US
dc.contributor.coadvisorนวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์th_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม23.37 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons