กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12345
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลต่อพฤติกรรมในการป้องกัน การติดเชื้อ ความพึงพอใจในบริการพยาบาลของผู้ดูแลและอัตราการกลับเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
ชื่อเรื่องอื่นๆ: The development of a caregivers participation model on infection prevention behaviors, satisfaction with nursing services and re-admission rates of pediatric cancer patients receiving chemotherapy
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: เปรมฤทัย น้อยหมื่นไวย, อาจารย์ที่ปรึกษา
นุสรา ประเสริฐศรี, อาจารย์ที่ปรึกษา
อุบลวรรณ อุณหสุวรรณ, 2514-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล--วิทยานิพนธ์
ความพอใจของผู้ป่วย
วันที่เผยแพร่: 2564
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และ 2) ศึกษาผลของรูปแบบที่พัฒนาขึ้นต่อพฤติกรรมในการป้องกันการติดเชื้อ ความพึงพอใจในบริการพยาบาลของผู้ดูแล และอัตราการกลับเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด กลุ่มตัวอย่างในระยะที่ 1 การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา และระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบ เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จำนวน 8 คน กลุ่มตัวอย่างในระยะที่ 3 การศึกษาผลของการใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้น เป็นผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งจำนวน 30 คน และ 3) ผู้ดูแลของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็ง จำนวน 30 คน ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ประเด็นการสนทนากลุ่ม 2) รูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลในการป้องกันการติดเชื้อของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดที่พัฒนาขึ้น 3) แบบสอบถามพฤติกรรมในการป้องกันการติดเชื้อของผู้ดูแล และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจในบริการพยาบาลของผู้ดูแล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยทั้งหมดผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน โดยแบบสอบถามมีค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 0.91 และ 0.93 ตามลำดับ และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.87 และ 0.93 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การทดสอบที สถิติวิลคอกซอลซายแรงค์ และสถิติฟิชเชอร์แอกแซกท์ ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลในการป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้พัฒนาขึ้นจากการมีส่วนร่วมของผู้ดูแล ประกอบด้วย แนวทางการมีส่วนร่วมของผู้ดูแลในการป้องกันการติดเชื้อของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งอย่างเป็นระบบตั้งแต่แรกรับจนกระทั่งจำหน่าย การสอนให้ความรู้ สาธิต สาธิตย้อนกลับ และฝึกทักษะที่จำเป็น และ 2) ผู้ดูแลมีพฤติกรรมในการป้องกันการติดเชื้อและมีความพึงพอใจในบริการพยาบาลทั้งโดยรวมและรายด้านหลังการใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <. 05) อัตราการกลับเข้ารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลของผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งต่ำกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <. 05)
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (พย.ม.(การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2564
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12345
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Nurse-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม28.78 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons