ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษา  เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลพังงา จังหวัดพังงา

ฤตินันท์ นาคพันธ์

Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13096

Full metadata record

DC Field	Value	Language
dc.contributor.advisor	นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์	th_TH
dc.contributor.author	ฤตินันท์ นาคพันธ์	th_TH
dc.contributor.other	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชาศึกษาศาสตร์	th_TH
dc.date.accessioned	2025-01-24T08:24:38Z	-
dc.date.available	2025-01-24T08:24:38Z	-
dc.date.issued	2566	-
dc.identifier.uri	https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13096	en_US
dc.description	วิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (วิทยาศาสตร์ศึกษา))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566	th_TH
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษากับนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษากับนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบปกติ และ 3) เปรียบเทียบความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษาระหว่างก่อน และหลังการจัดการเรียนรู้กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลพังงา ปีการศึกษา 2566 จำนวน 63 คน 2 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษา เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ จำนวน 3 แผน ใช้เวลา 19 ชั่วโมง 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 3 แผน ใช้เวลา 19 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบวัดความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีผลการวิจัยปรากฏว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษาสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษาสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05	th_TH
dc.language.iso	th	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช	th_TH
dc.rights	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช	th_TH
dc.source	Born digital	en_US
dc.subject	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--วิทยานิพนธ์	th_TH
dc.subject	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.แขนงวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา--วิทยานิพนธ์	th_TH
dc.subject	การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้	th_TH
dc.subject	ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน--ไทย--พังงา	th_TH
dc.subject	วิทยาศาสตร์ -- การศึกษาและการสอน--ไทย--พังงา	th_TH
dc.title	ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับสะเต็มศึกษา เรื่อง สมบัติทางกายภาพของวัสดุ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลพังงา จังหวัดพังงา	th_TH
dc.title.alternative	Effects of the Inquiry Instruction Together with STEM Education in the Topic of Physical Properties of Materials on Learning Achievement and the Ability to Apply Scientific Knowledge of Grade 4 Students at Anuban Phangnga School in Phangnga Province	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.name	ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์ศึกษา)	th_TH
dc.degree.level	ปริญญาโท	th_TH
dc.degree.discipline	สาขาวิชาศึกษาศาสตร์	th_TH
dc.degree.grantor	มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช	th_TH
dc.description.abstractalternative	The purposes of this research were to: 1) compare the learning achievement of the students learning through inquiry instruction together with STEM education and the students learning through traditional learning, 2) compare the ability to apply scientific knowledge of the students learning through inquiry instruction together with STEM education and the students learning through traditional learning, and 3) compare the ability to apply scientific knowledge of the students before and after learning through the inquiry instruction together with STEM education.The research sample consisted of 63 grade 4 students from 2 classrooms in Anuban Phangnga School who studied in the academic year 2023, obtained by cluster random sampling. One class was randomly assigned as an experiment group, and another class was assigned as a control groups. The research instruments were: 1) 3 lesson plans based on inquiry instruction together with STEM education in the topic of physical properties of materials for 19 hours, 2) 3 lesson plans based on traditional learning for 19 hours, 3) a learning achievement test, and 4) an ability to apply scientific knowledge test. The statistics used for data analysis were mean, standard deviation, and t-tests.The findings showed that: 1) The learning achievement of the students learning through inquiry instruction together with STEM education was higher than that of the students learning through traditional learning at the .05 level of statistical significance. 2) The ability to apply scientific knowledge of the students learning through inquiry instruction together with STEM education was higher than that of the students learning through traditional learning, at the .05 level of statistical significance. 3) The ability to apply scientific knowledge of the students learning through inquiry instruction together with STEM education was higher than their pre-learning counterpart ability at the .05 level of statistical significance.	en_US
dc.contributor.coadvisor	ทรงพล ผดุงพัฒนากูล	th_TH
Appears in Collections:	Edu-Theses

Files in This Item:

File	Description	Size	Format
2622000095.pdf		1.6 MB	Adobe PDF	View/Open

Show simple item record