กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13468
ชื่อเรื่อง: ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการชี้มูลความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Legal issues regarding disciplinary misconduct of government officials under Organic Act on Prevention and Suppression of Corruption B.E. 2561
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ศาสดา วิริยานุพงศ์
ดวงกมล สาคร
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี
พนักงานเจ้าหน้าที่--วินัย
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาแนวคิด และหลักการทางกฎหมายเกี่ยวกับการชี้มูลความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ของรัฐ (2) ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการชี้มูลความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ของรัฐของสาธารณรัฐฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการชี้มูลความผิดทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (4) เสนอแนะแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมในการชี้มูลความผิดทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเอกสาร จากหนังสือ ตำรา บทความ วารสาร งานวิจัย คำพิพากษาศาลปกครอง ผลงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพื่อวิเคราะห์และสรุปผลการศึกษาหาข้อเสนอแนะต่อไปผลการศึกษาพบว่า (1) แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่ใช้ในการดำเนินการทางวินัย คือ หลักการฟังความสองฝ่าย และหลักความเป็นกลางที่ใช้ในการพิจารณาชี้มูลความผิดทางวินัย ซึ่งถือว่าเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ถูกกล่าวหา (2) กฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยของสาธารณรัฐฝรั่งเศสมีมาตรการในการจัดตั้งองค์กรในการควบคุมและตรวจสอบการทุจริต คือ ศูนย์ป้องกันคอร์รัปชั่นที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีศาลวินัยเป็นแผนกหนึ่งในศาลปกครองทำหน้าที่วินิจฉัยความผิดทางวินัย ส่วนในประเทศไทย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนความผิดทางวินัยและชี้มูลความผิดทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่รัฐ และให้ผู้บังคับบัญชาถือเอาสำนวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้เลย (3) ศาลปกครองได้มีแนวคำวินิจฉัยว่า การไต่สวนและวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการวินิจฉัย กรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และในมูลความผิดดังกล่าวอาจมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดที่ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นกระทำความผิดทางวินัยในฐานความผิดอื่นย่อมอยู่ในอำนาจการชี้มูลความผิดทางวินัยแก่ผู้นั้น ผู้บังคับบัญชาผู้นั้นถือเอาสำนวนนั้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้เลย (4) เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 28 เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจชี้มูลความผิดทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13468
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Law-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2644000958.pdf1.23 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น