กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13497
ชื่อเรื่อง: | ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านการฟ้องร้องปิดปากแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Legal problems for combat to SLAPP Lawsuits under Section 161/1 of the Criminal Procedure Code |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | สุพัตรา แผนวิชิต วันทกาญจน์ จิตนาม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี กฎหมายปิดปาก วิธีพิจารณาความอาญา การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม |
วันที่เผยแพร่: | 2566 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษา แนวคิด และทฤษฎีทั่วไป ที่เกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก (2) ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายของประเทศไทยกับกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศฟิลิปปินส์ที่เกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก (3) ศึกษาวิเคราะห์กฎหมายที่เกี่ยวกับการต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก และ (4) เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปากการศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยทางกฎหมายโดยการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการวิจัยเอกสารกฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก โดยศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ บทความ เอกสารทางวิชาการ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ รวมถึงเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศ โดยผู้ศึกษาทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากเนื้อหาที่ได้จากการวิจัยเอกสารและการทบทวนวรรณกรรมเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการเสนอแนะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปากแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 เพื่อให้ได้แนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมให้ชัดเจนและเสนอแนะแนวทางเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป ผลการศึกษาพบว่า (1) ตามแนวคิดและทฤษฎีทั่วไป ที่เกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปากนั้น ผู้ที่มาพึ่งศาลจะต้องมาด้วยมือสะอาด” หมายถึง โจทก์หรือผู้เสียหายต้องฟ้องคดีต่อศาลด้วยความสุจริต มิใช่มีเจตนาอื่นนอกเหนือจากประสงค์ให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกฎหมาย และคู่ความในคดีจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิในการต้อสู้คดีกันอย่างเต็มที่ตามหลักพื้นฐานในระบบวิธีพิจารณาความ ซึ่งถือว่าเป็นหลักของความยุติธรรมตามธรรมชาติและถือเป็นมาตราฐานขั้นต่ำที่สุดในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการดำเนินคดี (2) กฎหมายไทยมีมาตรการเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก ได้แก่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 แต่ยังมีความไม่ชัดเจน เนื่องจากไม่มีการกำหนดคำนิยาม คำว่า“ฟ้องคดีโดยไม่สุจริต” ทั้งไม่มีมาตรการทางกฎหมายคุ้มครองสิทธิโจทก์และจำเลยในการต่อสู้คดีและไม่มีผลทางกฎหมายและการลงโทษที่เหมาะสมและชัดเจน ในกฎหมายของต่างประเทศ ได้มีการกำหนดคำนิยาม คำว่า “การฟ้องปิดปาก” ไว้ชัดเจน และมีมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิโจทก์และจำเลยในการต่อสู้ทางคดีโดยให้สิทธิจำเลยยื่น “คำร้องขอยุติคดีโดยเร็ว” และหากศาลวินิจฉัยว่าเป็นคดีฟ้องปิดปาก จำเลยมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากการที่โจทก์ฟ้องปิดปาก ซึ่งเรียกว่า “มาตรการฟ้องกลับ” (3) ในขณะที่กฎหมายไทยไม่มีความชัดเจนในเรื่องมาตรการเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการฟ้องร้องปิดปาก ซึ่งถือว่าเป็นการขัดต่อหลักพื้นฐานทั่วไปในระบบพิจารณาความอาญา เรื่องหลักการค้นหาความจริง หลักการฟังความทุกฝ่าย หลักนิติธรรมและหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการกระทำการหรือการแสดงออกทางความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะที่สุจริต (4) สมควรแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านการฟ้องร้องปิดปากในประเทศไทยเพื่อให้มีความชัดเจนและปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13497 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
2654001565.pdf | 1.16 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น