Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13571
Title: แนวทางการส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหมของเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่
Other Titles: Extension guidelines for the sericulture occupation of farmer in Chiangmai Province
Authors: บำเพ็ญ เขียวหวาน
สุทธภา ร่มโพธิ์ทอง
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์
หม่อน
ไหม
การพัฒนาอาชีพ--ไทย--เชียงใหม่
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพพื้นฐานส่วนบุคคล สภาพสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกร (2) สภาพการปลูกหม่อน เลี้ยงไหมและทอผ้าของเกษตรกร (3) ความรู้และแหล่งความรู้เกี่ยวกับอาชีพด้านหม่อนไหมของเกษตรกร (4) ความคิดเห็นและความต้องการการส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหม (5) ปัญหา ข้อเสนอแนะ สภาพแวดล้อมภายในภายนอก และแนวการส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหมของเกษตรกรประชากรในการวิจัย คือ เกษตรกรที่ประกอบอาชีพด้านหม่อนไหมในจังหวัดเชียงใหม่ และได้รับการส่งเสริมจากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ จำนวน 83 คน เก็บข้อมูลจากประชากรทั้งหมด และกลุ่มตัวอย่างในการสนทนากลุ่ม คือ ตัวแทนเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพด้านหม่อนไหมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 27 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การจัดอันดับ และการจัดหมวดหมู่ข้อมูล ผลการวิจัย (1) เกษตรกร อายุเฉลี่ย 55.89 ปี ได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา มีแรงงานอาชีพหม่อนไหม 1 คน มีรายได้ครัวเรือนต่อปีเฉลี่ย 123,744.58  บาท รายได้อาชีพหม่อนไหมต่อปีเฉลี่ย 31,768.07 บาท (2) เกษตรกรมีประสบการณ์ปลูกหม่อนเฉลี่ย 13.57 ปี มีพื้นที่ปลูกหม่อนเฉลี่ย 1.72 ไร่ ร้อยละ 41.90 ปลูกหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์ 60 รองลงมา ร้อยละ 27.90 ปลูกหม่อนพันธุ์เชียงใหม่ สภาพการเลี้ยงไหม พบว่า เกษตรกรมีประสบการณ์เฉลี่ย 22.94 ปี มีจำนวนการเลี้ยงไหมเฉลี่ย 4 รุ่นต่อปี ผลผลิตรังไหมเฉลี่ยต่อปี 126.67 กิโลกรัม สภาพการทอผ้า เกษตรกรมีประสบการณ์เฉลี่ย 26.24 ปี ร้อยละ 75.80 มีการทอผ้าเพื่อจำหน่ายเอง ทอผ้าเมตรเฉลี่ย 27 เมตรต่อปี และทอผ้าผืนเฉลี่ย 6.51 ผืนต่อปี  (3) ความรู้ของเกษตรกรอยู่ในระดับมาก แหล่งความรู้ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยได้รับจากสื่อบุคคลมากที่สุด (4) ความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพด้านหม่อนไหมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะประเด็นเกษตรกรมีความสุขและความพึงพอใจในอาชีพ ความต้องการการส่งเสริมอาชีพด้านหม่อนไหมอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะประเด็นความต้องการด้านการตลาด (5) ปัญหาอาชีพด้านหม่อนไหมอยู่ในระดับปานกลาง มีประเด็นปัญหาด้านการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง คือ ช่องทางจำหน่ายผลผลิตไม่หลากหลาย มีตลาดรองรับผลผลิตน้อย และความต้องการอยู่ในวงจำกัด ข้อเสนอแนะอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะข้อเสนอว่า ควรมีการส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย
Description: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13571
Appears in Collections:Agri-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2649001860.pdf1.65 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.