กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13671
ชื่อเรื่อง: | การยอมรับการผลิตข้าวตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Adoption of rice production according to rice production efficiency increase guidelines of farmers in Mueang Suang District, Roi Et Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | พลสราญ สราญรมย์ มาลียา อินทร์สุวรรณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา บำเพ็ญ เขียวหวาน |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์ ข้าว--ไทย--ร้อยเอ็ด--การผลิต |
วันที่เผยแพร่: | 2566 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) สภาพพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกร (2) ความรู้และแหล่งความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร (3) การยอมรับปฏิบัติตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร (4) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับการผลิตข้าวตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร (5) ปัญหาและความต้องการในการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสรวง ปี 2566/2567 จำนวน 4,970 ราย กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้สูตรของ ทาโร ยามาเน ที่ความคลาดเคลื่อน 0.07 ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 196 ราย สุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณผลการศึกษา พบว่า (1) เกษตรกรร้อยละ 53.06 เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 55.00 ปี จบชั้นประถมศึกษา ประสบการณ์ในการทำนาเฉลี่ย 30.21 สมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 3.51 คน แรงงานในการทำนาเฉลี่ย 2.28 คน เกษตรกรร้อยละ 76.5 ใช้แรงงานภายในครอบครัวและจ้างบางส่วน รายได้จากการทำนาเฉลี่ย 4,670.24 บาท/ปี ต้นทุนในการทำนาเฉลี่ย 1,732.60 บาท/ไร่ พื้นที่ปลูกข้าวเฉลี่ย 20.34 ไร่ เกษตรกรร้อยละ 89.3 จำหน่ายข้าวเปลือกกับโรงสี เกษตรกรร้อยละ 96.4 ใช้น้ำฝนในการทำเกษตร (2) เกษตรกรมีความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 15.41) โดยมีความรู้อันดับสุดท้าย คือ ด้านการใช้ปุ๋ยพืชสด และการควบคุมน้ำในแปลงสภาวะเปียกสลับแห้ง ส่วนการได้รับความรู้จากสื่อแบบกลุ่ม มวลชน และออนไลน์ อยู่ในระดับปานกลาง (3) เกษตรกรส่วนใหญ่มีการยอมรับปฏิบัติตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยยอมรับอันดับสุดท้าย คือ การปลูกโดยใช้เครื่องปักดำ (4) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับการผลิตข้าวตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 คือ จำนวนแรงงานในการปลูกข้าวและระดับความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร และจำรวนแรงงานในการทำนา (5) เกษตรกรส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกข้าวอยู่ในระดับมาก โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำ และเกษตรกรมีความต้องการการส่งเสริมด้านเนื้อหามากที่สุด โดยอันดับ 1 คือ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ให้ได้มาตรฐาน |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13671 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Agri-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
2659001883.pdf | 1.52 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น