กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13699
ชื่อเรื่อง: แนวทางการส่งเสริมการเกษตรเพื่อการปรับตัวของเกษตรกรต่อสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งในอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Agricultural extension guideline for the adaptation of farmers toward the drought situation in Ta Praya District, Sa Kaeo Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: พลสราญ สราญรมย์
กัญธษิมา พิมพ์สุวรรณ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
บำเพ็ญ เขียวหวาน
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์
การจัดการภัยแล้ง--ไทย--สระแก้ว
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพสังคมและสภาพเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) สภาพปัญหาและผลกระทบของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งด้านการทำการเกษตร เศรษฐกิจ และสังคม 3) การปรับตัวของเกษตรกรต่อสถานการณ์ภัยแล้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการจัดการทรัพยากรทางการเกษตร 4) แนวทางส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ภัยแล้ง การวิจัยนี้เป็นงานวิจัยแบบสำรวจ ประชากรที่ศึกษา คือ 1) เกษตรกรในพื้นที่อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว จำนวน 11,073 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยสูตร ทาโร ยามาเน ที่ความคลาดเคลื่อน 0.07 ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 205 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณา 2) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 3 คน จากเกษตรอำเภอ 1 คน และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงาน 2 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาโดยการจัดหมวดหมู่ ผลการวิจัย พบว่า 1) เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 53.60 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ปลูกข้าวเป็นพืชหลัก แหล่งน้ำส่วนใหญ่ใช้น้ำฝนในการทำการเกษตร ได้รับข่าวสารภัยแล้งจากโทรทัศน์/วิทยุ มีที่ดินเป็นของตนเอง มีหนี้สิน แหล่งกู้ยืมคือ ธกส. 2) สภาพปัญหาด้านการเกษตรพบว่า เกษตรกรขาดแคลนน้ำเมื่อเกิดภัยแล้ง ด้านเศรษฐกิจ พบว่า เกษตรกรได้ผลตอบแทนจากการผลิตในรอบปีลดลง ด้านสังคม พบว่า เกษตรกรมีสุขอนามัยไม่ดีจากน้ำที่ไม่เพียงพอและไม่มีคุณภาพ สภาพผลกระทบด้านการเกษตร พบว่า แหล่งน้ำในธรรมชาติตื้นเขิน ด้านเศรษฐกิจ พบว่า ราคาผลผลิตลดลงเนื่องจากผลผลิตมีคุณภาพต่ำ ด้านสังคม พบว่า เกิดความล่าช้าของกระบวนการทำงานในภาครัฐ 3) การปรับตัวด้านการจัดการทรัพยากรเกษตร พบว่า เกษตรกรมีการใช้น้ำอย่างประหยัด ด้านเศรษฐกิจ พบว่า เกษตรกรมีการปรับตัวโดยหารายได้จากการประกอบอาชีพเสริม และด้านสังคม พบว่า เกษตรกรมีการปรับตัวโดยรับฟังข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภัยแล้งอย่างสม่ำเสมอ 4) แนวทางการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ภัยแล้ง ได้แก่ การส่งเสริมเรื่องการใช้ดิน น้ำ ปุ๋ย การจัดการแรงงาน การจัดการเงินทุน การจัดการด้านการผลิตและการตลาดอย่างเหมาะสมเป้าหมาย โดยตัวชี้วัดความสำเร็จของแนวทางการส่งเสริมการเกษตรวัดได้จากทรัพยากรเกษตร สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันของเกษตรกรและหน่วยงานภาครัฐ
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13699
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2659002568.pdf1.28 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น