Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13842
Title: เปรียบเทียบแนวคิดและการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มคนตามช่วงอายุ : ศึกษากรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ในจังหวัดสกลนคร
Other Titles: Compare people's political concepts and expression by age range: Study a case The general election of members of the House of Representatives is 2023 in Sakon Nakhon Province
Authors: ขจรศักดิ์ สิทธิ
มนัญชยา แสนโสม
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชารัฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกการเมืองการปกครอง--การศึกษาเฉพาะกรณี
การแสดงออก--แง่การเมือง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร--การเลือกตั้ง
การศึกษาอิสระ--การเมืองการปกครอง
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซด เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างทางความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนระหว่างประชาชนในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซด และเพื่อหาแนวทางการอยู่ร่วมกันทางความคิดเห็นทางการเมืองของ กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซดการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อมุ่งศึกษาแนวคิดและการแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มคนตามช่วงอายุ : ศึกษากรณีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ในจังหวัดสกลนคร จากผู้ให้ข้อมูล 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 เบบี้บูมเมอร์ส กลุ่มที่ 2 เจเนอเรชั่นแซด และกลุ่มที่ 3 ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยการเก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ จากนั้นนำไปสังเคราะห์ร่วมกับ ผลที่ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซด มีความแตกต่างกันในบางประเด็น และจากการเปรียบเทียบความคิดเห็นทางการเมืองของเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซด พบว่ามีบางประเด็นที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน คือ การเข้าถึงข้อมูลของการรับรู้ข่าวสารของประชาชนในเจเนอเรชั่นที่มีการรับรู้ข่าวสารมากน้อยแตกต่างกัน รวมถึงประสบการณ์ได้รับจากการเลือกตั้งในอดีตทำให้เกิดความคิดเห็นทางการเมืองของเบบี้บูมเมอร์ส และเจเนอเรชั่นแซด มีความแตกต่างกันในบางประเด็น ซึ่งแนวทางการอยู่ร่วมกันทางความคิด คือ การให้มองถึงความสามารถในการเข้าถึงการตรวจสอบ การทำงานของนักการเมืองในปัจจุบันผ่านทางโซเชียลมีเดีย ควรศึกษาถึงนโยบายและการปฏิบัติงานของพรรคการเมือง รวมถึงผู้สมัครในพรรคนั้นๆ ว่าสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน หรือสามารถช่วยพัฒนาพื้นที่ในด้านต่างๆ ให้ประชาชนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นหรือไม่ และการมองอย่างเป็นเหตุและผล เพราะทุกนโยบายที่ทุกพรรคการเมืองเสนอมา มีจุดมุ่งหมายที่ดี
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13842
Appears in Collections:Pol-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
2648000863.pdf4.02 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.