Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1765
Title: | การพัฒนารูปแบบการช่วยชีวิตขั้นสูงโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โดยใช้แนวคิดของการจัดการความรู้ |
Other Titles: | Development of an advanced life support model for Maharaj Nakhon Si Thammarat Hospital based on Knowledge management |
Authors: | บุญทิพย์ สิริธรังศรี บุญนำ พัฒนแก้ว, 2508- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา สุพิมพ์ ศรีพันธ์วรสกุล พิเชฐ บัญญัติ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์--วิทยานิพนธ์ การกู้ชีพ การช่วยชีวิต โรงพยาบาล--บริการพยาบาลฉุกเฉิน |
Issue Date: | 2550 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนื้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการช่วยชีวิตขั้นสูงโดยใช้การจัดการความรู้ของโนนากะและทาคิวชิ และ (2) ประเมินความเหมาะสมในการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือผู้มีประสบการณ์ร่วมในทีมช่วยชี้วัดขั้นสูงในงานผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จำนวน 14 คน ประกอบด้วย พยาบาลผู้ปฏิบัติ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชุด คือ (1) ประเด็นสนทนา (2) แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการช่วยชีวิตขั้นสูงที่ผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ มีค่าระหว่าง 0.70-1.00 และ 0.80-1.00 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการสนทนากลุ่ม ใช้เทคนิคสุนทรียสนทนาวิเคราะหข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบการช่วยชีวิตขั้นสูง ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) ด้านทีมช่วยชีวิต ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบย่อย คือ (1) บุคลากรในทีมช่วยชีวิต (2) การกำหนดหน้าที่รับผิดชอบในทีม (3) การประสานงานภายในทีม (4) การซ้อมในสถานการณ์เหมือนจริง (5) การสืบทอดประสบการณ์เพึ่อพัฒนาศักยภาพของทีม (6) การยอมรับการเปลี่ยนแปลงของบุคลากรในทีม 2) แนวปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นสูง ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบย่อย คือ (1) บันได 5 ขั้นสู่ความสำเร็จ (2) วงจร 6 นาทีเพื่อชีวิต (3) สูตรอัตราการกดหน้าอก 3) การจัดเตรียมความพรัอมด้านสถานที่และเวชภัณฑ์ ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบย่อย คือ (1) การจัดเตรียมอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ (2) การจัดสถานทึ่เฉพาะสำหรับการช่วยชีวิต 4) ปัจจัยเอื้อกระบวนการปฏิบัติช่วยชีวิต ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบย่อย คือ (1) การจัดตั้ง ทีมอย่างเป็นทางการ (2) การทบทวนกระบวนการและผลลัพธ์การช่วยชีวิต (3) การหาข้อสรุปเรื่องหลุมพราง (ข้อผิดพลาด) และนำเสนอแนวทางปรับปรุง รูปแบบการช่วยชีวิตขั้นสูงที่พัฒนาขั้นมีความเหมาะสมและสามารถนำไปใช้ในการช่วยชีวิตขั้นสูงตามบริบทของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ที่ระดับความเชื่อมั่น 0.93 |
Description: | วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1765 |
Appears in Collections: | Nurse-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Thesbib108791.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 5.62 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License