Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1766
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเบญจมาศ อยู่ประเสริฐ, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.advisorภรณี ต่างวิวัฒน์, อาจารย์ที่ปรึกษาth_TH
dc.contributor.authorบัณฑิต เกิดมงคล, 2521--
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2022-10-18T06:54:38Z-
dc.date.available2022-10-18T06:54:38Z-
dc.date.issued2556-
dc.identifier.urihttp://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1766-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2556th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกร 2) ความรู้เกี่ยวกับการไถกลบฟางและตอซังข้าวของเกษตรกร 3) การไถกลบฟางและตอซังข้าวของเกษตรกรและ4) ปัญหาและข้อเสนอแนะของเกษตรกรในการไถกลบฟางและตอซังข้าว ผลการวิจัยพบว่า 1) เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 51.68 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษา มีประสบการณ์ในการทานาเฉลี่ย 21.79 ปี เกือบครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีพื้นที่ทาการเกษตรเฉลี่ย 29.47ไร่ พื้นที่ทาการเกษตรเป็นของตนเอง เฉลี่ย 24.96 ไร่ ส่วนใหญ่มีพื้นที่ทานาข้าวเป็นของตนเองเฉลี่ย 17.16ไร่ แรงงานในครัวเรือนทั้งหมดเฉลี่ย 3.41 แรงงานช่วยทาการเกษตรเฉลี่ย 2.31 คน มีรายได้จาการทานาเฉลี่ย 131,850 บาทต่อปี รายได้จากการทาการเกษตรอื่นเฉลี่ย 93,261.06 บาทต่อปี รายได้นอกภาคการเกษตรเฉลี่ย 57,285.32 บาทต่อปี ต้นทุนการทานาข้าวเฉลี่ย 2,968.86 บาทต่อไร่ มีรายได้จากการทานาข้าวหนึ่งครั้งในฤดูนาปี ปี 2555 เฉลี่ย 6,947.12 บาทต่อไร่ ราคาผลผลิตที่ขายได้เฉลี่ย 14.37 บาทต่อกิโลกรัม 2) เกษตรกรได้รับความรู้ในระดับน้อย ส่วนใหญ่ได้จากอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ความต้องการรับความรู้จากแหล่งความรู้เฉลี่ยในระดับปานกลาง ต้องการรับความรู้จากอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านมากที่สุด การได้รับความรู้จากกลุ่ม เกษตรกรอยู่ในระดับมาก 3) เกษตรกรเกือบสองในสามขายฟางแบบเหมาทั้งแปลงเพื่อนาไปอัดเป็นฟางก้อนจาหน่าย ใช้คลุมดินในการปลูกพืชเพื่อช่วยรักษาความชื้นในดิน และไม่เผาฟางและตอซังข้าวตามลาดับ เกษตรกรเกินสามในสี่ไถกลบหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ส่วนใหญ่ไถกลบแล้วหมักไว้ไม่ต่ากว่า 2 สัปดาห์ แล้วจึงทาเทือกเพื่อเตรียมเพาะปลูกข้าวครั้งต่อไป และจ้างรถไถนั่งขับพรวนดินให้ละเอียด ด้วยผานพรวนสาหรับนาแห้ง หรือ จอบหมุนตีเทือกสาหรับนาน้า ประเด็นที่ส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างมีความต้องการไถกลบฟางและตอซังข้าว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ลดปัญหามลภาวะสภาพแวดล้อมและอุบัติเหตุ เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และหมุนเวียนธาตุอาหารพืชคืนสู่ดินตามลาดับ 4) เกษตรกรมีปัญหาในเรื่องค่าจ้างรถไถกลบมีราคาสูง ข้อเสนอแนะของเกษตรกรให้หน่วยที่เกี่ยวข้องจัดงานรณรงค์ไถกลบฟางและตอซังข้าวอย่างต่อเนื่องth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2013.309-
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectการจัดการดิน--ไทย--นครราชสีมาth_TH
dc.subjectน--ไทย--นครราชสีมา.th_TH
dc.titleการไถกลบฟางและซังข้าวของเกษตรกร ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาth_TH
dc.title.alternativeRice straw and stubble ploughed up and over by farmers in Ta Khu Sub-district, Pak Thong Chai District, Nakhon Ratchasima Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2013.309-
dc.degree.nameเกษตรศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
Appears in Collections:Agri-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
139980.pdfเอกสารฉบับเต็ม13.4 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons