Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1786
Title: น้ำสกัดมูลสัตว์ในการปลูกดาวเรือง
Other Titles: Dung extracted for growing marigold
Authors: พงศ์พันธุ์ เธียรหิรัญ, อาจารย์ที่ปรึกษา
กฤษณา รุ่งโรจน์วณิชย์, อาจารย์ที่ปรึกษา
นฤพน คุตตะสิงคี, 2510-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการจัดการการเกษตร --วิทยานิพนธ์
ดาวเรือง--การปลูก
ดาวเรือง--ปุ๋ย
Issue Date: 2556
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) การเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินจากการใช้น้ำสกัดมูลสัตว์ต่างชนิด (2) เปรียบเทียบน้ำสกัดมูลสัตว์ต่างชนิด และอัตราส่วนต่างๆ ต่อการเจริญเติบโตของดาวเรือง (3) เปรียบเทียบน้ำสกัดมูลสัตว์ต่างชนิดร่วมกับปุ๋ยเคมีผลการทดลองสมบัติของดินในการปลูกดาวเรือง พบว่า ค่าความเป็น กรด – ด่าง (pH) ของดินก่อนและหลังใช้น้าสกัดมูลสัตว์ต่างชนิด มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลง สามารถนาไปใช้ในการปรับปรุงดินได้ ผลการทดลองใช้น้ำสกัดมูลสัตว์ 3 ชนิด อัตราส่วนต่างๆ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีแนวโน้นว่าการใช้น้าสกัดมูลสัตว์ต่างชนิด อัตราส่วน 1: 10 มีการเจริญเติบโตของดาวเรืองดีกว่า อัตราส่วน 1: 20 ในทุกชนิดของน้ำสกัดมูลสัตว์ โดยที่การใช้น้ำสกัดมูลสุกร อัตราส่วน 1: 10 ให้ขนาดดอกและจำนวนดอกที่ดีกว่า ผลการทดลองใช้น้ำสกัดมูลสัตว์ 3 ชนิด อัตราส่วน 1: 10 กับการใช้น้ำสกัดมูลสัตว์ 3 ชนิด อัตราส่วน 1: 10 ร่วมกับปุ๋ยเคมี พบว่า การเจริญเติบโตของต้นดาวเรืองไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่จำนวนผลผลิตดอกดาวเรือง มีความแตกต่างกันทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการใช้ปุ๋ยเคมี กับการใช้น้ำสกัดมูลสัตว์ต่างชนิด อัตราส่วน 1: 10 ร่วมกับปุ๋ยเคมี พบว่า มีความแตกต่างกันทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ โดยที่การใช้น้ำสกัดมูลสุกร อัตราส่วน 1: 10 ร่วมกับปุ๋ยเคมี มีแนวโน้มให้ผลผลิตดีที่สุด
Description: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (การจัดการการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2556
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1786
Appears in Collections:Agri-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
140603.pdf12.18 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons