กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2047
ชื่อเรื่อง: บทบาทหมอดินอาสาในการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ กรณีศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี
ชื่อเรื่องอื่นๆ: The roles of soil improvement volunteers in the extension of biotechnology substance utilization : a case study in Ubon Ratchathani Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สุนันท์ สีสังข์, อาจารย์ที่ปรึกษา
พรชุลีย์ นิลวิเศษ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ศศิธร หุ่นทอง, 2526-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์
เทคโนโลยีชีวภาพการเกษตร
ดิน--เทคโนโลยีชีวภาพ
วันที่เผยแพร่: 2555
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ข้อมูลพื้นฐานทางด้านสังคมและเศรษฐกิจของหมอดินอาสา 2) ความรู้เกี่ยวกับบทบาทของหมอดินอาสา 3) บทบาทหมอดินอาสาในการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ และ 4) ปัญหาและข้อเสนอแนะของหมอดินอาสาเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ ผลการวิจัยพบว่า 1) หมอดินอาสาส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา อายุเฉลี่ย 55.55 ปี จานวนสมาชิกในครัวเรือน เฉลี่ย 4.77 คน มากกว่าครึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการหมู่บ้าน อาชีพหลักคือทำนา รายได้ภาคการเกษตรเฉลี่ย 84,786.67 บาท/ปี และรายได้นอกภาคการเกษตร เฉลี่ย 24,515.73 บาท/ปี ทุกคนมีหนี้สิน แหล่งหนี้สินส่วนใหญ่ คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2) หมอดินอาสามีความรู้เกี่ยวกับบทบาทที่ต้องปฏิบัติเป็นอย่างดี โดยเกินกว่าร้อยละ 90 ของหมอดินอาสามีความรู้อย่างถูกต้องในประเด็นต่างๆ ยกเว้น 3 ประเด็นที่หมอดินอาสาจำนวนหนึ่งที่ยังมีความรู้ไม่ถูกต้อง 3) บทบาทของหมอดินอาสาด้านการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ การร่วมกิจกรรม และการส่งเสริมแก่เกษตรกรในการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ โดยประมาณครึ่งหนึ่งแสดงบทบาทดังกล่าวเป็นประจำ ส่วนอีกจำนวนเท่าๆ กัน แสดงบทบาทเป็นบางครั้ง 4) หมอดินอาสามีเพียงบางส่วนที่มีปัญหาบางประการ ได้แก่ การขาดการส่งเสริมเกษตรกรอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ การเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินบ่อยครั้ง และการอบรมน้อยครั้งเกินไป ข้อเสนอแนะคือ ควรมีการติดต่อประสานงานกันอย่างสม่าเสมอ ไม่ควรเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินบ่อยครั้ง และควรมีการจัดฝึกอบรมมากกว่า 2 ครั้ง/ปี
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2555
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2047
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
130818.pdfเอกสารฉบับเต็ม10.48 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons