กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2488ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
| ฟิลด์ DC | ค่า | ภาษา |
|---|---|---|
| dc.contributor.advisor | ภรณี ต่างวิวัฒน์, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.advisor | เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ, อาจารย์ที่ปรึกษา | th_TH |
| dc.contributor.author | ศุภกฤต จันทรวิชญ์, 2521- | - |
| dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา | th_TH |
| dc.date.accessioned | 2022-12-22T02:52:48Z | - |
| dc.date.available | 2022-12-22T02:52:48Z | - |
| dc.date.issued | 2557 | - |
| dc.identifier.uri | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2488 | - |
| dc.description | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2557 | th_TH |
| dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกษตรกรผู้ผลิตหม่อนผลสดในจังหวัดสกลนคร ดังนี้ (1) ลักษณะพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจ (2) สภาพการผลิตหม่อนผลสด (3) ความต้องการการส่งเสริมการผลิตหม่อนผลสด (4) ปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการผลิตหม่อนผลสดและการส่งเสริมการผลิตหม่อนผลสด ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ (1) เกษตรกรมากกว่าครึ่งเล็กน้อยเป็นเพศหญิง และจบการศึกษาระดับประถมศึกษา อายุเฉลี่ย 49.06 ปี มีจำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4.41 คน มีประสบการณ์ผลิตหม่อนผลสดเฉลี่ย 2.29 ปี เกษตรกรมีรายได้และรายจ่ายในการผลิตหม่อนผลสดเฉลี่ยต่อปี 7,968.82 และ 1,811.36 บาท ตามลาดับ และสองในสามมีหนี้สิน แหล่งหนี้สินส่วนใหญ่มาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (2) เกษตรกรส่วนใหญ่ถือครองพื้นที่ผลิตหม่อนผลสดต่ำกว่า 1 ไร่ โดยทั้งหมดปลูกหม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่ ใช้แรงงานในครัวเรือนเฉลี่ย 2.17 คน และแรงงานจ้างเฉลี่ย 1.63 คนเพื่อการผลิตหม่อนผลสด ส่วนใหญ่ให้ปุ๋ยคอก และเกือบทั้งหมดไม่มีการใช้สารเคมีและไม่บังคับหม่อนให้ออกดอก ส่วนใหญ่ให้ผลผลิต 2 ครั้งต่อปี ผลผลิตเฉลี่ยต่อปี 382.24 กิโลกรัมต่อไร่ ผลตอบแทนต่อไร่เฉลี่ย 6,881.60 บาท เกษตรกรประมาณหนึ่งในสามจำหน่ายผลผลิตให้กับโรงงานอุตสาหกรรม (3) เกษตรกรมีความต้องการในการส่งเสริมระดับมากที่สุดในด้านการตลาดและด้านการบริการและการสนับสนุนด้านการผลิต มีความต้องการการส่งเสริมระดับมากในด้านความรู้และเทคโนโลยีทางวิชาการ โดยวิธีการส่งเสริมที่เกษตรกรต้องการมากที่สุด คือ การจัดงานเทศกาลกินหม่อนผลสดในระดับจังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับการระบุความต้องการส่งเสริมด้านการตลาดมากที่สุด (4) เกษตรกรมีปัญหาด้านการตลาดระดับมาก มีปัญหาด้านการผลิตและการส่งเสริมระดับปานกลาง และมีข้อเสนอแนะที่เป็นประเด็นสาคัญ คือ ให้รัฐประกันราคา จัดหาแหล่งรองรับในการจำหน่ายผลผลิต เชื่อมโยงตลาดแบบครบวงจร ควรจัดทัศนศึกษาดูงานฟาร์มที่ประสบความสาเร็จ ควรส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการผลิตหม่อนผลสดแบบครบวงจรและสนับสนุนระบบการผลิตที่มีมาตรฐานภายใต้ราคาที่ดีเป็นแรงจูงใจ | th_TH |
| dc.format | application/pdf | en_US |
| dc.language.iso | th | en_US |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.relation.uri | https://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2014.26 | - |
| dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
| dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
| dc.source | Born digital | en_US |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์ | th_TH |
| dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์ | th_TH |
| dc.subject | หม่อน--การผลิต | th_TH |
| dc.subject | การส่งเสริมการเกษตร | th_TH |
| dc.title | การผลิตหม่อนผลสดและความต้องการการส่งเสริมของเกษตรกรในจังหวัดสกลนคร | th_TH |
| dc.title.alternative | Mulberry fruit production and extension needs of farmers in Sakon Nakhon Province | en_US |
| dc.type | Thesis | en_US |
| dc.identifier.DOI | 10.14457/STOU.the.2014.26 | - |
| dc.degree.name | เกษตรศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
| dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
| dc.degree.discipline | สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ | th_TH |
| dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
| dc.description.abstractalternative | The objectives of this study were (1) to study fundamental social and economic state of farmers who had raised mulberry trees in Sakon Nakhon Province; (2) to study the state of their mulberry fruit production; (3) to study their need for mulberry fruit production extension; and (4) to study their problems and suggestions on mulberry fruit production and the production extension. The population in this study was all 110 farmers who had raised mulberry trees in Sakon Nakhon Province with no random sampling. The data were collected by using structural interview form. The statistical methodology used to analyze the data by computer programs were frequency, percentage, minimum value, maximum value, mean, and standard deviation. The findings of this study were as follows: (1) slightly more than a half of the studied farmers were female, with average age at 49.06 years. They were educated at primary level. The average number of their household members was 4.41 persons. The average period of their experience in mulberry fruit production was 2.29 years. The average of their income and expenditure on mulberry fruit production was 7,968.82 Baht/year, and 1,811.36 Baht/year respectively. Two-thirds of them had debts resulting from their taking out loans from the Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives. (2) the size of their occupied land using in raising mulberry trees of the majority of the studied farmers was smaller than 1 Rai. All of them had raised their mulberry trees in Chiang Mai tribe. The average number of their household labor in raising mulberry trees was 2.17 persons, while the average number of their hired labor was 1.63 persons. Most of them applied manure to their mulberry trees, and almost all of them had not applied any chemical substance to their mulberry trees. They did not accelerate their mulberry trees to bloom, however, most of their mulberry trees bore fruit twice a year. The average of their produce was 382.24 Kilograms/Rai/year. Their average income was 6,881.60 Baht/Rai. About one-third of them distributed their produce directly to industrial factories. (3) the studied farmers needed mulberry production extension, at the highest level, in the aspect of marketing, services, and the production support. They needed the production extension, at high level, on being transferred agricultural knowledge and academic technology. The way of extension which they needed at the highest level was to set, at province level, a festival of eating mulberries which was consistent with the marketing extension which they mentioned that they needed at the highest level. And (4) the studied farmers had problems, at high level, in the marketing aspect, and they had problems, at medium level, in the aspect of mulberry fruit production and the production extension. They suggested that the government should have had the selling price guarantee for their produce, supported them with market places to distribute their produce, linked the markets as one stop service, set field studies to observe successful farms, supported them to build a network, as one stop service, of mulberry fruit production, and supported a standardized production system using high selling price to motivate them | en_US |
| ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Agri-Theses | |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
| แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
|---|---|---|---|---|
| 146065.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 14.97 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License
