Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2514
Title: | การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนของโครงการทางเลี่ยงเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ |
Other Titles: | Cost-benefit analysis of the Krabi bypass highway project, Krabi Province |
Authors: | เรวดี จรุงรัตนาพงศ์ ภานุมาศ สุวรรณรัตน์, 2509- ผู้แต่ง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี ทางหลวง--แง่เศรษฐกิจ ต้นทุนการผลิต--การคำนวญ โครงการทางหลวงท้องถิ่น การศึกษาอิสระ--เศรษฐศาสตร์ |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนของโครงการทาง หลวงในจังหวัดกระบี่ ที่มีแนวเส้นทางตัดผ่านพื้นที่ภูเขาลาดชันที่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ และปรับปรุงรูปแบบ ทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำโดยใช้รูปแบบอุโมงค์ และ 2) วิเคราะห์ความอ่อนไหว ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราคิดลดต้นทุนค่าก่อสร้างและปริมาณจราจร ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษานี้ได้จากการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้วิธี วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทน เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบการก่อสร้างทางหลวงใน 2 รูปแบบ ทางเลือก ได้แก่ 1) การก่อสร้างทางหลวงผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำ และ 2) การก่อสร้างทางหลวงรูปแบบอุโมงค์ ลอดใต้แนวภูเขา เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ลุ่มน้ำ ในระยะเวลาศึกษาวิเคราะห์ 20 ปี การวิเคราะห์ความอ่อนไหว ทดสอบด้วยอัตราคิดลดที่แตกต่างกัน (ร้อยละ 3 ร้อยละ 5 และร้อยละ 8) การเพิ่มขึ้นและการลดลงร้อยละ 20 ของต้นทุนก่อสร้าง และปริมาณการจราจร ผลการศึกษาสรุปได้ว่า 1) การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนรูปแบบทางเลือกที่ 2 หรือ การก่อสร้างทางหลวงรูปแบบอุโมงค์ลอดใต้แนวภูเขา มีความคุ้มค่ามากกว่ารูปแบบทางเลือกที่ 1 หรือการ ก่อสร้างทางหลวงผ่านพื้นที่ภูเขาลาดชันที่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ 7,870.45 ล้านบาท ณ อัตราคิดลดร้อยละ 3 และ 4,826.64 ล้านบาท ณ อัตราคิดลดร้อยละ 5 แต่หากใช้อัตราคิดลดร้อยละ 8 รูปแบบทางเลือกที่ 1 จะมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากบั 2,108.69 ล้านบาท สูงกว่ารูปแบบทางเลือกที่ 2 ที่มีค่า เท่ากับ 1,954.06 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตราคิดลดแสดงถึงการแลกการบริโภคระหว่างคนรุ่นปัจจุบัน กับคนรุ่น อนาคต นโยบายของรัฐควรจะเป็นนโยบายที่คำนึงถึงคนในรุ่นอนาคตด้วยเช่นกันดังนั้นผลของการศึกษา จึงน่าให้น้ำหนักกับผลการศึกษาที่ใช้อัตราคิดลดที่ต่ำ เพราะการใช้อัตราคิดลดที่ยิ่งมีค่าสูงขึ้นเท่าใด ซึ่งหมายถึงการให้น้ำหนักความสำคัญกับอนาคตน้อยลงเท่านั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนรูปแบบ ทางเลือกที่ 2 คือ รูปแบบทางเลือกที่ 2 ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบทางเลือกที่ 1 และ การศึกษานี้ยังพบว่า 2) ผลการวิเคราะห์ความอ่อนไหวไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงลำดับของรูปแบบ ทางเลือก ทางหลวงรูปแบบอุโมงค์ยังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับการก่อสร้างทางหลวงผ่าน พื้นที่ลุ่มน้ำ |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2514 |
Appears in Collections: | Econ-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
160437.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 2.66 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License