Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2528
Title: | ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่กับผลได้ต่อขนาด : กรณีศึกษาบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ |
Other Titles: | Big retailers and returns to scale : a case of Big C Supercenter |
Authors: | สมศักดิ์ มีทรัพย์หลาก รจเรศ งะสมัน, 2520- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ การค้าปลีก การศึกษาอิสระ--เศรษฐศาสตร์ |
Issue Date: | 2552 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาการดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อได้เปรียบด้านต้นทุน (2) ศึกษาการดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ มีผลก่อให้เกิดผลได้ต่อขนาด (3) ศึกษาปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดผลได้ต่อขนาด (4) ศึกษากลยุทธ์ ในการดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ซึ่งรวบรวมมาจาก งบการเงิน บิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ เอกสารทางวิชาการ งานวิจัยต่าง ๆ โดยศึกษาการดำเนินธุรกิจของ บิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ ระหว่างปี พ.ศ. 2542 2552 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ใช้สถิติการวิเคราะห์ถดถอยในรูปสมการลอการิทีม ของคอบ-สักลาสผลการศึกษาพบว่า (1) การดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ มีปัจจัยด้านแรงงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดข้อได้เปรียบด้านต้นทุน (2) การดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ มีผลก่อให้เกิดผลได้ต่อขนาดเพิ่มขึ้น 8339.90 (3) ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดผลได้ต่อขนาดมีสองปัจจัย คือ ปัจจัยด้านที่ดิน อาคาร อุปกรณ์และปัจจัยด้านแรงงาน มีความสัมพันธ์กับปริมาณการผลิตในลักษณะแปรผันตรง โดยที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้เดิม (4) ในการดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี ชุปเปอร์เซ็นเตอร์ ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ในการค้าปลีก |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2528 |
Appears in Collections: | Econ-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
118951.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 2.52 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License