Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2561
Title: | การจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 |
Other Titles: | Educational management under the dual education model as perceived by teachers and school administrators in schools under the Secondary Education Service Area Office 21 |
Authors: | อรรณพ จีนะวัฒน์ อำนาจ ทองอร่าม, 2521- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารการศึกษา--การศึกษาเฉพาะกรณี การจัดการศึกษา--ไทย ระบบการเรียนการสอน การสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา การศึกษาอิสระ--บริหารการศึกษา |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาตามความคิดเห็นของครูและผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 และ (2) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารและครูในโรงเรียนที่จัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษา 8 โรงเรียนๆ ละ 10 คน จำนวนทั้งสิ้น 80 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วยผู้บริหาร หัวหน้างานวิชาการ หัวหน้างานหลักสูตร หัวหน้างานทะเบียนและวัดผล หัวหน้างานแนะแนว หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เจ้าหน้าที่งานทวิศึกษาและครูผู้สอน 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษา มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) สภาพปัจจุบันในการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษา ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดยขั้นตอนการสำเร็จการศึกษามีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาเป็นการกำหนดหลักสูตรสถานศึกษาและการวัดและประเมินผล ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษา พบว่าภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด โดยพบว่า ขั้นตอนการสำเร็จการศึกษามีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาเป็นการประกันคุณภาพหลักสูตรและการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ และ (2) ความต้องการจำเป็นในการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษาของโรงเรียน พบว่า ขั้นตอนการประกันคุณภาพหลักสูตรมีค่าความต้องการจำเป็นมากที่สุด รองลงมาเป็นการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ และการวิเคราะห์ประเภทวิชา สาขาวิชา สาขางาน โดยขั้นตอนการกำหนดหลักสูตรสถานศึกษามีความต้องการจำเป็นน้อยที่สุด |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2561 |
Appears in Collections: | Edu-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 26.08 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License