Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/262
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ลาวัณย์ ถนัดศิลปกุล | th_TH |
dc.contributor.author | วันชัย ไพบูลย์อภิบาล, 2518- | th_TH |
dc.contributor.other | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา | th_TH |
dc.date.accessioned | 2022-08-05T08:11:59Z | - |
dc.date.available | 2022-08-05T08:11:59Z | - |
dc.date.issued | 2555 | - |
dc.identifier.uri | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/262 | en_US |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (น.ม. (กฎหมายธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2555 | th_TH |
dc.description.abstract | วิทยานิพนธ์เรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องการป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และมาตรการทางกฎหมายเชิงป้องกันในการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยเพื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มประชาคมยโรปุประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นและเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนามาตรการทางกฎหมายเชิงป้องกันในการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับในสภาพสังคมในปัจจุบันงานวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยทางกฎหมาย โดยการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิจัยเอกสาร ซึ่งผู้วิจัยทำการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลหลักการและหลักเกณฑ์จากบทบัญญัติกฎหมายไทยและต่างประเทศ หนังสือบทความวารสารวิทยานิพนธ์รวมทั้งขัอมูลเอกสารทางกฎหมายอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคและจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อนามาศึกษาวิเคราะห์ในเชิงเปรียบเทียบผลการศึกษาพบว่าเนื่องจากในปัจจุบันที่ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญขึ้นมาก ทำให้การผลิตสินค้าของผู้ประกอบการมีการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรที่ทันสมัย และมีกระบวนการผลิตที่สลับซับซ้อน การที่ผู้บริโภคจะตรวจสอบพบว่าสินค้าเหล่านั้นชำรุดบกพร่องนั้น เป็นเรื่องที่กระทำได้ยากเพราะขั้นตอนการผลิตสินค้าที่กว่าจะถึงขั้นตอนการจัดจำหน่ายและส่งถึงมือผู้บริโภคมีมากมายหลายขั้นตอนและสลับซับซัอนทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าสิ่นค้านั้นเกิดความไม่ปลอดภยในขั้นตอนใดอีกทั้งกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นล้วนแต่เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาแก้ไข้ปัญหาให้แก่ผู้บริโภคในกรณีที่ได้เกิดความเสียหายขึ้นแก่ผู้บริโภคขึ้นแล้วแต่ยังไม่มีกฎหมายใดที่จะสามารถป้องกันเหตุล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ดังนั้นควรที่ต้องมีมาตรการทางกฎหมายเชิงป้องกันในการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อมาควบคุมการผลิตสินค้าและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยอันเกิดจากการใช้สินค้านั้น ผู้วิจัยได้เสนอแนวทางการแกไข้ปัญหาการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งเป็นแนวคิดใหม่โดยเสนอให้นำระบบการป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์มาใช้ซึ่งประยุกต์มาจากหลักการของเสาหลักแห่งความก้าวหน้า (Pillars of Progress) ซึ่งผู้วิจัยเห็นว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ในการคุ้มครองผู้บริโภคไดโดยมีหลักการที่สำคัญคือให้ภาครัฐเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาโดยออกมาตรการทางกฎหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างความร่วมมือกันและเพื่อสร้างสมดุลกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของภาครัฐของผู้ประกอบการ ของผู้บริโภคและขององค์การอิสระต่าง ๆ เพื่อที่จะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาและเพื่อหาแนวทางป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดการแก้ไข ปัญหาได้อย่างยั่งยืนทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองและความปลอดภัยอย่างสูงสุดและยังสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ | th_TH |
dc.format | application/pdf | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.rights | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) | en_US |
dc.rights.uri | https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/ | en_US |
dc.source | Born digital | en_US |
dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายธุรกิจ--วิทยานิพนธ์ | th_TH |
dc.subject | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--วิทยานิพนธ์ | th_TH |
dc.subject | การคุ้มครองผู้บริโภค--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ | th_TH |
dc.title | มาตรการทางกฎหมายเชิงป้องกันในการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีความรับผิดในผลิตภัณฑ์ | th_TH |
dc.title.alternative | Preventive measures for consumer protection in product liability | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | นิติศาสตรมหาบัณฑิต | th_TH |
dc.degree.level | ปริญญาโท | th_TH |
dc.degree.discipline | สาขาวิชานิติศาสตร์ | th_TH |
dc.degree.grantor | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | th_TH |
dc.description.abstractalternative | This thesis aims to study the concepts and theories regarding the prevention of damage caused by defective products and the legal preventive measures for consumer protection in Thailand compared with the measures of the EU, USA and Japan and to propose the development of existing legal preventive measures for consumer protection in Thailand. This thesis is a legal qualitative research conducted based on documentary research regarding the consumer protection from both Thai and foreign sources including laws, text books, articles, journals, theses and information from the related government offices such as the Office of the Consumer Protection Board and the Council of State. According to the study, the high technology and complicated production process have been employed due to the advancement of the current science and technology. The consumers may have difficulties to inspect whether the products are defective because of the complexity of product manufacturing process and distribution. Moreover, the existing laws only allow for consumers recovery and remedy after the damage had occurred but there is no law with an advance preventive concept to protect the consumers. Such concept is needed in order to control the product manufacture and protect the consumers. The researcher proposes a new resolution by applying the system of damage prevention from defective product which is adapted from the Pillars of Progress concept. The researcher believes that such concept could be adapted to prevent the damage caused by the defective products. The main concept of this new resolution is the government should issue the legal measures to support the balance and cooperative of the related parties: government offices, manufacturers, consumers and non-governmental organizations in order to resolve the problem and create measures to prevent the damage caused by defective products. This will protect the consumers and the problem will be effectively resolved. | en_US |
dc.contributor.coadvisor | สิริพันธ์ พลรบ | th_TH |
Appears in Collections: | Law-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Thesbib138365.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 22.94 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License