กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2793
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมของไวรัสพีอาร์อาร์เอสเพื่อควบคุมและป้องกันโรคด้วยวัคซีนในเขตภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Genetic analysis of porcine reproductive and respiratory Syndrome Virus for disease prevention and control by Lower Northern Region of Thailand
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: จิตติมา กันตนามัลลกุ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ธรรมรัฐ หรพร้อม, 2520-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการจัดการการเกษตร --การศึกษาเฉพาะกรณี
ไวรัสพีอาร์อาร์เอส
วันที่เผยแพร่: 2556
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ข้อมูลพื้นฐานของซากสุกรและฟาร์มสุกร 2) ลักษณะทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัสพีอาร์อาร์เอส และ 3) แนวทางการควบคุมและป้องกันโรคพีอาร์อาร์เอสด้วยวัคซีนในเขตภาคเหนือตอนล่าง ประชากรในการศึกษา คือ ซากสุกรที่ให้ผลบวกต่อการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสพีอาร์อาร์เอส โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 126 ตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่าง คือ ซากสุกรจำนวน 22 ตัวอย่าง โดยการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือการวิจัยคือ แบบฟอร์มรับตัวอย่างเพื่อการชันสูตรโรค และผลการตรวจหาลำดับสารพันธุกรรมของไวรัสพีอาร์อาร์เอส วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิง พรรณนาและการทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษาพบว่า 1) ซากสุกรที่มีปัญหาโรคพีอาร์อาร์เอสส่วนใหญ่มีอายุ 4 - 6 สัปดาห์ พันธุ์ลููกผสม ทำวัคซีนโรคอหิวาต์สุกร เลี้ยงในฟาร์มสุกรขนาดเล็กมีพ่อแม่พันธุ์ เลี้ยงในโรงเรือนพื้นปูน และใช้อาหารสำเร็จรูปจากบริษัท 2) พื้นที่ภาคเหนือตอนล่างพบไวรัสพีอาร์อาร์เอส สายพันธ์ุยุโรปและสายพันธุ์อเมริกา โดยมีสัดส่วนของการตรวจพบไม่แตกต่างกัน (p>0.05) 3) การควบคุม และป้องกันโรคพีอาร์อาร์เอสด้วยวัคซีน คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพีอาร์อาร์เอส การตรวจยืนยันสถานภาพของโรคในฟาร์ม และการเลือกใช้วัคซีนตรงกับสายพันธ์ุไวรัสที่ก่อโรค
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2793
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT_140213.pdfเอกสารฉบับเต็ม7.82 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons