Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3023
Title: | ปัญหาการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 : ศึกษาบทบาทผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน |
Other Titles: | Problems in criminal dispute mediation under the Dispute Mediation Act B.E.2562 : a study of the roles of mediators at the inquiry stage |
Authors: | ปวินี ไพรทอง ภูมิพัฒน์ สัญญา, 2535- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี การไกล่เกลี่ย--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความเป็นมาและความสําคัญของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา (2) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เกี่ยวกับการสอบสวนและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา (3) ศึกษากฎหมายและกระบวนการไกล่เกลี่ยคดีอาญาในประเทศไทยและต่างประเทศ (4) วิเคราะห์ปัญหาบทบาทของผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน (5) เสนอแนะแก้ไขบทบาทของผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิจัยทางเอกสาร โดยทําการศึกษาจากหนังสือ บทความ เอกสารงานวิจัย ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการศึกษาวิจัย และนำมาวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปและข้อเสนอแนะของการวิจัยต่อไป ผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีปริมาณคดีอาญาขึ้นสู่ศาลเป็นจํานวนมาก ทําให้เกิดปัญหาด้านการบริหารงานยุติธรรมในหลายด้าน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้กระบวนการทางศาลโดยไม่จําเป็นและลดผลร้ายจากกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก ประเทศไทยจึงได้นำแนวคิดกระบวนการยุติธรรมทางเลือกมาใช้ควบคู่กับกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก โดยได้มีการตราพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ขึ้นมาใช้บังคับ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่จากการศึกษา พบว่าการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน ในส่วนของบทบาทของผู้ไกล่เกลี่ย พบปัญหา ดังนี้ (1) ปัญหาพนักงานสอบสวนขาดการมีส่วนร่วมในการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้กำหนดบทบาทในการมีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาให้กับพนักงานสอบสวน ทั้งที่พนักงานสอบสวนเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จึงสมควรที่จะให้พนักงานสอบสวนเข้าร่วมในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้วย (2) ปัญหาการขาดการมีส่วนร่วมของชุมชนในการเป็นองค์คณะไกล่เกลี่ย ซึ่งชุมชนถือว่ามีความสำคัญต่อคู่กรณี เนื่องจากชุมชนเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิด โดยเมื่อผู้กระทำความผิดพ้นโทษหรือการไกล่เกลี่ยสำเร็จ ผู้กระทำความผิดก็จะต้องกลับสู่ชุมชนของตนเอง ดังนั้น จึงเห็นควรให้ชุมชนเข้าร่วมเป็นองค์คณะไกล่เกลี่ยทางอาญาในชั้นการสอบสวนด้วย และ (3) ปัญหาองค์คณะไกล่เกลี่ยที่เป็นบุคคลภายนอก ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพียงคนเดียว อาจมีการแทรกแซงหรือเรียกรับผลประโยชน์จากคู่กรณีได้ ดังนั้น จึงเห็นว่าการไกล่เกลี่ยควรกระทำในรูปของคณะกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา โดยให้ชุมชนร่วมกับพนักงานสอบสวนและบุคคลภายนอกร่วมเป็นองค์คณะไกล่เกลี่ยข้อพิพาท |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3023 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 15.12 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License