Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3463
Title: แนวทางการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวของสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จำกัด จังหวัดยะลา
Other Titles: Approaches to touism business management by the Ban Chulabhorn Patana 9 Agricultural Cooperative Limited in Yala Province
Authors: ส่งเสริม หอมกลิ่น, อาจารย์ที่ปรึกษา
วิชชุดา กาญจนศิริ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
สหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9--การบริหาร
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว--ไทย--ยะลา
Issue Date: 2556
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา 1) ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในหมู่บ้าน จุฬาภรณ์พัฒนา 9 2) ศักยภาพของสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จำกัด 3) แนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ ท่องเที่ยวของสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จำกัด และ 4) ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะในการบริหาร จัดการธุรกิจท่องเที่ยวของสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จำกัด ประชากรที่ศึกษา คือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ในช่วงเดือน มกราคม-มีนาคม 2557 จำนวน 50 คน และ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 คือ สมาชิกสหกรณ์ ผู้นำ ชุมชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม และระดมสมองโดยกระบวนการมี ส่วนร่วม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นเพศชายอายุระหว่าง 41-50 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว รายได้เฉลี่ยเดือนละ 20,001-30,000 บาท มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด นักขัตฤกษ์ ใช้เวลาท่องเที่ยว 2-3 วัน ทราบข้อมูลการท่องเที่ยวจากเพื่อน/ญาติ/คนรู้จัก มีจุดมุ่งหมายเพื่อชื่นชมธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของชุมชน ความพึงพอใจด้านความเป็นมิตรของผู้คนในท้องถิ่นมากที่สุด ด้านแหล่งท่องเที่ยว ด้าน อาหาร และด้านบริการนำเที่ยวระดับมาก ด้านการคมนาคม ด้านสถานที่พัก และด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับ ปานกลาง และความพึงพอใจต่อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกระดับน้อยที่สุด 2) ศักยภาพของสหกรณ์พบว่า จุดแข็งคือ สมาชิกมีความพร้อม มีทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยว จุดอ่อนคือสมาชิกขาดประสบการณ์การบริหารจัดการ ขาดความ พร้อมปัจจัยเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว อุปสรรคคือ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การ คมนาคม การติดต่อสื่อสาร โอกาส คือ หน่วยภาครัฐให้การสนับสนุนการท่องเที่ยว ส่งเสริมอาชีพ มีมาตรการความ ปลอดภัย 3) แนวการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวของสหกรณ์ ได้แก่การบริหารจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยวทุกด้าน อย่างเป็นระบบโดยเน้นจุดแข็งที่สำคัญของชุมชน และสหกรณ์ ควรปรับปรุงแก้ไขจุดอ่อน และแสวงหาโอกาส ที่สนับสนุน การดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวของชุมชนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 4) ปัญหาอุปสรรคในการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยวของสหกรณ์ คือ ไม่มีฝ่ายจัดการ เงินทุน หมุนเวียนไม่เพียงพอ วัสดุอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ขาดการวางแผนการที่ดี ข้อเสนอแนะ ให้คณะกรรมสหกรณ์ดำเนินการ แทนฝ่ายจัดการ ฝึกอบรมเพิ่มทักษะความรู้ให้กบมัคคุเทศกับชุมชน ระดมเงินออม เงินฝาก และจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือ ขอสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ภายใต้อุดมการณ์ หลักการ และวิธีการ สหกรณ์เพื่อให้สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้กับสมาชิกและคนในชุมชน จนสามารถสร้างเศรษฐกิจฐาน รากของชุมให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3463
Appears in Collections:Agri-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
140524.pdfเอกสารฉบับเต็ม16.65 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons