กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3509
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความเป็นนิติบุคคลในทางกฎหมายมหาชนของสถานศึกษาของรัฐต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Study on an entity in public law of state Educational Institutions for Management of basic education
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ภัฏฐิญา สิริบวรพิพัฒน์
ทนง ถวาย, 2505-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชากฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี
โรงเรียนรัฐบาล--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
วันที่เผยแพร่: 2554
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์การศึกษาค้นคว้าอิสระในครั้งนี้ เป็นการศึกษาความเป็นนิติบุคคลในทางกฎหมายมหาชนของสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีวัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา แนวคิด ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการศึกษาในสถานศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคล 2) เพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นนิติบุคลของสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3) เพื่อศึกษาปัญหาเกี่ยวกับความเป็นนิติบุคคลของสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4) เพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลของรัฐที่ จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิธีดำเนินการวิจัยในเรื่องนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยดำเนินการศึกษาค้นคว้าเอกสาร ใช้วิธีการศึกษาวิจัยเอกสาร โดยศึกษาวิเคราะห์จากเอกสารปฐมภูมิ ได้แก่ รัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน กฏและระเบียบต่าง ๆ ตลอดจนเอกสารทุติยภูมิ ได้แก่ ตำรา บทความทางวิชาการ รายงานการวิจัย และสื่ออิเลคทรอนิกส์สารสนเทศ (Internet) ที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ศึกษาในครั้งนี้ ผลจากการที่ได้ศึกษาพบว่า การที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐ ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาเป็นนิติบุคคลโดยบัญญัติไว้ในมาตรา 35 นั้น มีเจตนารมณ์กำหนดให้ สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล เพื่อให้สถานศึกษามีความเป็นอิสระ คล่องตัว สามารถบริหารและจัดการศึกษาในสถานศึกษาได้สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพตามหลักการกระจายอำนาจ แต่การกระจายอำนาจสู่สถานศึกษายังไม่เป็นไปตามหลักการ กระจายอำนาจที่แท้จริงเป็นลักษณะการมอบอ่าน ๆ ส่วนกลางและเขตพื้นที่การศีกษายังคงมีอำนาจต่อสถานศึกษาอยู่มากกรรมการสถานศึกษาไม่สามารถปฏิบัติงานตามบทบาทที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการกำหนดทิศทางและนโยบาย กฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่เอื้อต่อการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ฉะนั้นกระทรวงศึกษาธิการ ควรกระจายอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด ควรลดบทบาทในการปฏิบัติ มุ่งเน้นการกํากับนโยบายและวางแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษา ควรปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการ กระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา และควรจัดทำคู่มือการบริหารจัดการศึกษาโดยกำหนดบทบาทอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่างส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3509
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Law-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
Fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม12.81 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons