Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3943
Title: | การวิเคราะห์การบริหารการคลังตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ศึกษากรณีอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร |
Other Titles: | Analysis of fiscal administration for universal health insurance project : a case study of Waritchaphum District, Sakon Nakhon Province |
Authors: | จีระ ประทีป สุพรรณิการ์ เสรีกุล มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา เสน่ห์ จุ้ยโต |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ--วิทยานิพนธ์ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การคลัง--การบริหาร--ไทย |
Issue Date: | 2550 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษานี้มีวัคถุประสงค์เพึ่อ (1) วิเคราะห์การบริหารการคลังตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร (2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคของการบริหารการคลังตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร (3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการคลังตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนครการศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยทำการศึกษาสถานพยาบาลในเขตอำเภอวาริชภูมิ ซึ่งประกอบด้วยโรงพยาบาลวาริชภูมิ 1 แห่ง และสถานีอนามัย 9 แห่ง ในการวิจัยนี้ได้ศึกษาวิจัยจากเอกสารรายงานด้านการบริหารการคลัง และจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ด้านการบริหารการคลัง จำนวน 14 คน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จำนวน 5 คน และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย จำนวน 9 คน ผลการวิจัยพบว่า (1) ในปืงบประมาณ 2550 โรงพยาบาลและสถานีอนามัยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 18,555,897.24 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.08 จากปืงบประมาณ 2549 ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพิ่มมากขึ้น ในปืงบประมาณ 2550 โรงพยาบาลและสถานีอนามัยมีรายจ่ายรวมเพิ่มขึ้น 4,575,567.59 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.65 จากปืงบประมาณ 2549 โดยค่าเวชภัณฑ์ยาเป็นรายจ่ายที่มีการเพิ่มขึ้นมากที่สุด และในปืงบประมาณ 2550 โรงพยาบาลและสถานีอนามัยมีหนี้สินลดลง 2,325,873.37บาท หรือลดลงร้อยละ 26.30 จากปืงบประมาณ 2549 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ค่าเวชภัณฑ์ยา สำหรับการวิเคราะห์ อัตราส่วนทางการเงินของโรงพยาบาลและสถานีอนามัย พบว่าอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนในปืงบประมาณ2549 เท่ากับ 0.48 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง ส่วนอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนในปืงบประมาณ 2550 เท่ากับ 2.12 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี และอัตราส่วนสินทรัพย์คล่องตัวในปืงบประมาณ 2549 เท่ากับ 0.46 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง ส่วนอัตราส่วนสินทรัพย์คล่องตัวในปีงบประมาณ 2550 เท่ากับ 2.01 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี (2) ปัญหาอุปสรรคของการบริหารการคลัง คือ สถานีอนามัยมีปัญหาเรื่องการได้รับงบประมาณล่าช้า จึงทำให้ขาดงบประมาณในการดำเนินงานและมีปัญหาหนี้ค้างชำระ โรงพยาบาลและสถานีอนามัยมีรายจ่ายค่าวัสดุเพิ่มสูงขึ้นโดยค่าเวชภัณฑ์ยามีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับแรก และมีปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ขาดความรู้เรื่องระเบียบการเบิกจ่าย (3) ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการคลัง คือ ควรลดระยะเวลาและลดขั้นตอนที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัคสกลนคร โอนเงินมาให้สถานีอนามัยให้รวดเรึวขึ้น ควรลดรายจ่ายค่าเวชภัณฑ์ยาโดยการลด การใช้ยาเกินความจำเป็น และควรจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่เรื่องระเบียบการเบิกจ่าย |
Description: | วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารรัฐกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3943 |
Appears in Collections: | Manage-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
105297.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 7.73 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License