Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4161
Title: | ปัญหาความเป็นกลางของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราชการพลเรือนสามัญตามมาตรา 13 และ 16 พระราชบัญญัติวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 |
Other Titles: | Impartiality of the Disciplinary Inquiry Committee in case of misconduct by civil servants sections 13 and 16 of the administrative procedure Act, B.E. 2539 (A.D.1996) |
Authors: | จิราพร สุทันกิตระ มนต์ชัย พิชิตถาวรพงศ์, 2519- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี ข้าราชการพลเรือน--วินัย ความเป็นกลาง การศึกษาอิสระ--กฎหมายมหาชน |
Issue Date: | 2560 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และหลักความเป็นกลาง เพื่อหาแนวทางในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้ถูกต้องและมีความเป็นธรรมต่อข้าราชการพลเรือนสามัญ การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการวิจัยเอกสาร โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวม ค้นคว้าข้อมูลจากเอกสารวิชาการที่เกี่ยวข้อง จากตำรา บทความ วิทยานิพนธ์ รวมทั้งเอกสารทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยข้าราชการพลเรือนสามัญ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตลอดจนแนวคำพิพากษาของศาลปกครอง ผลการศึกษาพบว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยมีวัตถุประสงค์ มีผลกระทบต่อข้าราชการ ผู้ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนจะต้องมีความเป็นกลาง แม้มีบางกรณีไม่ขัดต่อหลักความเป็นกลางตามมาตรา 16 แต่ต้องไม่ขัดต่อมาตรา 13 ซึ่งมาตรา 13 นั้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อคุ้มครองให้ผู้ถูกสอบสวนได้รับความเป็นธรรมจากผู้พิจารณาที่ปราศจากอคติในการที่คณะกรรมการเคยพิจารณาเรื่องมาแล้วในชั้นสอบข้อเท็จจริงเมื่อมาอยู่ในชั้นสอบสวนทางวินัยก็มีแนวโน้มที่จะปกป้องความเห็นของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น มาตรา 92 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ไม่มีบัญญัติในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 13 และมาตรา 16 จึงควรมีบัญญัติให้ชัดเจนว่าผู้ที่เคยเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ควรมาอยู่ในคณะกรรมการสอบสวนอีก |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4161 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 9.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License