กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5331
ชื่อเรื่อง: การศึกษารายกรณีเรื่องผลการใช้นิทานเพื่อปรับพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กสมาธิสั้นของโรงเรียนบ้านใหม่ (วันครู 2503) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Case study of the effects of using fairy tales to modify aggressive behaviors in short concentration students of Ban Mai (Wan Khru 2503) School Betong District, Yala Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: จรีลักษณ์ รัตนาพันธ์
ลักษมี ศิลากุล, 2523-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
เด็กสมาธิสั้น--การศึกษาเฉพาะกรณี
ความก้าวร้าวในเด็ก--ไทย--ยะลา
วันที่เผยแพร่: 2553
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษารายกรณีฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้กิจกรรมนิทาน ที่ส่งผลต่อการปรับพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กสมาธิสั้น เป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนที่มีอาการสมาธิสั้นและมีพฤติกรรมก้าวร้าว อายุ 10 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านใหม่ (วันครู ๒๕๐๓) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 1 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลองแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ การสังเกตพฤติกรรมก่อนทดลอง จำนวน 7 ชั่วโมง การสังเกตพฤติกรรมระหว่างทดลอง ใช้เวลาจำนวน 12 ชั่วโมง และการสังเกตพฤติกรรมหลังทดลอง จำนวน 7 ชั่วโมง เครื่องมือ ที่ใช้ ในการวิจัยครั้งนี้ คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเล่านิทาน (2) แบบสังเกต พฤติกรรมก้าวร้าว สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิง เนื้อหา ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า พฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กสมาธิสั้นเฉลี่ยลดลงหลังจากการ ใช้กิจกรรมการเล่านิทานโดยก่อนทดลองเฉลี่ย 39 ครั้งต่อระยะเวลา 7 ชั่วโมงและหลังทดลองเฉลี่ย 21 ครั้ง ต่อระยะเวลา 7 ชั่วโมง จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาพบว่าการเลือกเนื้อหาของนิทานเน้นให้เห็นผลของการ กระทำอย่างชัดเจนและการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมีส่วนในการลดพฤติกรรมก้าวร้าวลง
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5331
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Edu-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
fulltext_123127.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.46 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons