Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6461
Title: | การพัฒนาแบบวัดทักษะปฏิบัติการเปิดทางเดินหายใจและช่วยหายใจของนักศึกษาวิสัญญีพยาบาล |
Other Titles: | Development of performance assessment on open airway with bag mask ventilation by Nurse Anesthetist Students |
Authors: | สังวรณ์ งัดกระโทก, อาจารย์ที่ปรึกษา ฐิติมา ชินะโชติ, อาจารย์ที่ปรึกษา สุภิญญา ติวิรัช, 2512- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา -- วิทยานิพนธ์ การรักษาทางเดินหายใจ |
Issue Date: | 2554 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างแบบวัดทักษะปฏิบัติการเปิดทางเดินหายใจ และช่วยหายใจของนักศึกษาวิสัญญีพยาบาล และ (2) ตรวจสอบคุณภาพแบบวัดทักษะปฏิบัติการเปิด ทางเดินหายใจ และช่วยหายใจนักศึกษาวิสัญญีพยาบาล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาวิสัญญีพยาบาลสังกัดคณะ แพทยศาสตรศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปีการศึกษา 2553 จำนวน 35 คน ซึ่งใช้วิธีเลือก แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แบบวัดทักษะปฏิบัติการเปิดทางเดินหายใจและช่วย หายใจของนักศึกษาวิสัญญีพยาบาล (2) แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติการเปิด ทางเดินหายใจและช่วยหายใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียรสัน และการทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า แบบวัดทักษะปฏิบัติการเปิดทางเดินหายใจและช่วยหายใจของ นักศึกษาวิสัญญีพยาบาล มีดัชนีความสอดคล้องความตรงเชิงเนื้อหา ตั้งแต่ 0.86-1.00 ความตรงเชิง เหมือนซึ่งคำนวณจากการหาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทฤษฎีกับคะแนนปฏิบัติเท่ากับ 0.035 (t = 0.841) หลังจากฝึกปฏิบัติผ่านไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเป็น 0.363 (t = 0.032) ความตรงเชิงจำแนกคำนวณจากความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนของแบบทดสอบสูติศาสตร์กับ คะแนนปฏิบัติการเปิดทางเดินหายใจและช่วยหายใจมีค่าเท่ากับ -0.009 (t = 0.960) ความตรงเชิง จำแนกโดยเทคนิคกลุ่มรู้ชัด พบว่ากลุ่มเก่ง มีค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินการปฏิบัติสูงกว่ากลุ่มอ่อนอย่างมี นัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (t = 4.407, p = 0.01) ความเที่ยงของแบบประเมินโดยการวัดซ้ำ พบว่า คะแนนการวัดครั้งที่ 1 สัมพันธ์กับคะแนนการวัดครั้งที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 (r = 0.921, p = 0.000) ความเที่ยงของการให้คะแนนโดยผู้ประเมิน 2 คน มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.01 (r = 0.975, t = 0.000) |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6461 |
Appears in Collections: | Edu-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
127946.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.25 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License