กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6541
ชื่อเรื่อง: | รูปแบบการสื่อสารภายในองค์กรของบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจมาร์เก็ตติ้ง : กรณีศึกษาเขตการขายที่ 6 |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Internal organizational communication format, of Thai Beverage Marketing Public Company Limited : a case study of the 6th sale area |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | เชาว์ โรจน์แสง เอนก รัตนงาม, 2515- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา สุวีณา ตั่งโพธิสุวรรณ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--วิทยานิพนธ์ บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจมาร์เก็ตติ้ง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์ การสื่อสารในองค์การ. |
วันที่เผยแพร่: | 2553 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) รูปแบบการสื่อสารภายในองค์กร บริษัท ไทย เบฟเวอเรจมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กรณีศึกษาเขตการขายที่ 6 (2) เปรียบเทียบรูปแบบการสื่อสารจำแนกตาม ลักษณะประชากร (3) วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร และ (4) ปัญหาอุปสรรคการสื่อสาร ภายในองค์กร เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรได้แก่ พนักงานบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เขตการขาย ที่ 6 ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม และ มุกดาหาร จำนวน 659 คน การสุ่มตัวอย่างตามชั้นภูมิกำหนดตัวอย่างโดยใช้ทาโรยามาเน ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 248 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยง 0.938 สถิติ ที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที และเอฟ ผลการวิจัยพบว่า (1) รูปแบบการสื่อสารภายในองค์กรมีทั้ง การสื่อสารจากบนลงล่างที่สามารถ สร้างการรับรู้ บทบาทหน้าที่ได้ชัดเจน การสื่อสารจากล่างขึ้นบนมีการเปิดโอกาสสื่อสาร เพื่อรับข้อมูล สะท้อนกลับ การสื่อสารในแนวนอนลดความขัดแย้งโดยรูปแบบการสื่อสารจากล่างขึ้นบนจะมีน้อยกว่า รูปแบบอื่น (2) การศึกษาลักษณะประชากรในด้าน เพศ การศึกษา ตำแหน่งงาน และอายุที่ส่งผลกระทบ ต่อความแตกต่างในการรับรู้ พบว่า พนักงานที่มีอายุแตกต่างกันมีการรับรู้ในรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน ส่วนพนักงานที่มี เพศ การศึกษา ตำแหน่งงานแตกต่างกัน พบว่ามีการรับรู้ในรูปแบบการสื่อสารที่ไม่ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 (3) วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สุดขององค์กร คือ การ สื่อสารด้วยลายลักษณ์อักษรรองลงมา คือ การสื่อสารด้วยวาจามีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนการปฏิบัติ มีการจัดการประชุมเปิดโอกาสให้สอบถามปัญหา ได้รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ และ (4) อุปสรรค ปัญหาที่ พบมากที่สุด คือความชัดเจนของการติดต่อสื่อสารด้วยวาจา รองลงมาคือ ปัญหา ปริมาณการติดต่อสื่อสาร ด้วยลายลักษณ์อักษรข้อเสนอแนะการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารเพื่อสร้างการยอมรับควรเพิ่มความรู้ เสริมแรงจูงใจด้วยการรับฟัง และสนองตอบด้วยความจริงใจ อย่างยุติรรม เพิ่มช่องทางการสื่อสารจากล่างขึ้นบน และในการสื่อสารด้วยลายลักษณ์อักษรควรประกอบกับการสื่อสารด้วยวาจาเพื่อเพิ่มความชัดเจน |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6541 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Manage-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
120927.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 2.71 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License