กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6640
ชื่อเรื่อง: | ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จังหวัดลำปาง |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Satisfaction of parents with educational management of Maetha Pracha Samukkee School in Lampang Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | อรรณพ จีนะวัฒน์ ใจชาย ปัณนะพงษ์, 2505- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารการศึกษา--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี ความพอใจ ผู้ปกครองกับเด็ก การศึกษา--การมีส่วนร่วมของบิดามารดา การศึกษาอิสระ--บริหารการศึกษา |
วันที่เผยแพร่: | 2559 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1).ศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการ จัดการศึกษาของโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จังหวัดลำปาง 2).เปรียบเทียบความ พึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จำแนกตามวุฒิการศึกษา อาชีพ รายได้ และระดับการศึกษาของนักเรียนในปกครอง และ 3).เสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารงานโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี กลุ่ม ตัวอย่างคือ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จังหวัดลำปาง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2559 จำนวน 122 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จังหวัดลำปาง ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าความเที่ยงเท่ากับ .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัย ปรากฏว่า 1) ความ พึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาโรงเรียนแม่ทะประชาสามัคคี จังหวัดลำปาง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ผู้ปกครองที่มีวุฒิการศึกษาต่ากว่าปริญญาตรี มีความพึงพอใจต่อการจัดการศึกษามากกว่าผู้ปกครองที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี ผู้ปกครองที่มีอาชีพทางานในหน่วยงาน มีความพึงพอใจมากกว่าผู้ปกครองที่มีอาชีพอิสระ ผู้ปกครองที่มีรายได้มากกว่า 7,000 บาท/เดือน มีความพึงพอใจมากกว่าผู้ปกครองที่มีรายได้ต่ากว่า 7,000 บาท/เดือน ผู้ปกครองของนักเรียนในระดับมัธยม ศึกษาตอนต้น มีความพึงพอใจมากกว่าผู้ปกครองของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ3) ได้แนวทางในการพัฒนาการบริหารงานโรงเรียน ดังนี้ ให้นักเรียนทุกคน มีส่วนร่วมในการรักษาความสะอาด จัดหาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา ปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนและท้องถิ่น กวดขันด้านความมีระเบียบวินัยแก่ผู้เรียน และควรมีการระดมทรัพยากรจากผู้ปกครองอย่างเหมาะสมให้เพียงพอกับการนำไปพัฒนาโรงเรียนต่อไป |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6640 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Edu-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext_159404.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 2.48 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License