กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7065
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาแนวทางการจับจังหวะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Development of a market timing approach in the Stock Exchange of Thailand using technical analysis
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: กัลยานี ภาคอัต, อาจารย์ที่ปรึกษา
อภิญญา วนเศรษฐ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ชยงการ ภมรมาศ, อาจารย์ที่ปรึกษา
คมวุธ วิศวไพศาล, 2514-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ -- วิทยานิพนธ์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย -- การลงทุน
วันที่เผยแพร่: 2556
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ทดสอบประสิทธิภาพของตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย (2) พัฒนาแนวทางการตัดสินใจเพื่อการจับจังหวะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย การวิเคราะห์ทางเทคนิค (3) พัฒนาแนวทางการวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และ (4) ศึกษาและเปรียบเทียบผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับจากการจับจังหวะลงทุนทั้งก่อนและหลังการ คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ การวิจัยนี้ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นเครื่องมือในการจับจังหวะลงทุน เพื่อสร้าง ผลตอบแทนสูงสุด โดยใช้เกณฑ์การตัดสินใจที่กำหนดขึ้นมาทดสอบกับข้อมูลราคาปิดรายวันของ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงระยะเวลา 38 ปี ตั้งแต่วันแรกที่ทำการซื้อขาย สร้าง โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตามระยะเวลาต่างๆ เพื่อกำหนดสัญญาณซื้อ ขาย หลักทรัพย์ เปรียบเทียบผลตอบแทนและความเสี่ยงของระหว่างเกณฑ์การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ในทุกสภาวะตลาดกับกลยุทธ์การซื้อและถือครองในช่วงเวลาเดียวกัน การทดสอบประสิทธิภาพ ระดับต่ำของตลาดหลักทรัพย์ใช้วิธีวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาด้วยสถิตินอนพาราเมตริก ผลการวิจัยพบว่า (1) การจับจังหวะลงทุนโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ธรรมดาที่ เหมาะสมในช่วง 15 วัน ถึง 50 วัน สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า และมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ากล ยุทธ์การซื้อและถือครองได้อย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากความสามารถในการลดความสูญเสียมูลค่า เงินลงทุนในสภาวะตลาดขาลง (2) ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์จะทำให้ผลตอบแทนจาก การจับจังหวะลงทุนลดลงในสัดส่วนที่สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ๆมี ระยะเวลาสั้นกว่า 10 วัน ในการจับจังหวะลงทุนทำให้ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนเกินปกติได้ และ (3) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขาดประสิทธิภาพในระดับต่ำ ทำให้แนวทางการจับจังหวะ ลงทุนดังกล่าวสามารถสร้างกำไรเกินกว่าปกติในระยะยาวได้
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7065
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
143349.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.45 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons