Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7219
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorยุทธนา ธรรมเจริญth_TH
dc.contributor.authorอนุชา ครุธทามาส, 2529-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2023-07-04T06:21:01Z-
dc.date.available2023-07-04T06:21:01Z-
dc.date.issued2558-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7219en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2558th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้แทนยาในประเทศไทย (2) แรงจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาจากบริษัทยาในประเทศไทย (3) ระดับความสำคัญของแรงจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาในประเทศไทย (4) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับแรงจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาในประเทศไทย (5) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการลาออกจากงานของผู้แทนยาในประเทศไทย และ (6) ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทำงานและการลาออกจากงานของผู้แทนยาในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นผู้แทนยาในประเทศไทย จำนวน 385 คน สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว กรณีการเปรียบเทียบเชิงซ้อนใช้วิธีการ แอล เอส ดี และเชฟฟี่เทส ผลการวิจัยพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 56.9) มีอายุ 25-35 ปี และมีสถานภาพโสด สำเร็จการศึกษาในสาขาเภสัชศาสตร์ ซึ่งทำงานทั้ง ในบริษัทยาข้ามชาติและของไทย รับผิดชอบเขตการขายในต่างจังหวัด มีประสบการณ์ในการทำงาน 1-3 ปี และมีรายได้เ ฉลี่ยต่อเดือน 50,001-70,000 บาท (2) แรงจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาจากบริษัทยาในประเทศไทยมีดังต่อไปนี้ โอกาสการก้าวหน้าในอาชีพการบังคับบัญชาและความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา เงินเดือนและค่าตอบแทน และความสำเร็จในการทำงาน (3) ระดับ ความสำคัญของแรงจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาในประเทศไทยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบวา่ ด้านโอกาสการก้าวหน้า ในอาชีพอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการบังคับบัญชา และความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ด้านเงินเดือนและค่าตอบแทน และด้านความสำเร็จในการทำงาน (4) ปัจจัยส่วนบุคคลทุกด้านไม่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการทำงาน (5) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ สถานภาพการ สมรส ลักษณะของบริษัทที่สังกัดประสบการณ์ในการทำงานเป็นผู้แทนยา และรายได้ทั้งหมดโดยเฉลี่ยต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับ การลาออกจากงานของผู้แทนยาในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ (6) แรงจูงใจในการทำงานมีความสัมพันธ์กับการลาออกอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยเฉพาะแรงจูงใจในการทำงานด้านสถานภาพ ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านการบังคับบัญชาและความสัมพันธ์กับ ผู้บังคับบัญชา ด้านนโยบายการบริหารของบริษัท ด้านเงื่อนไขในการทำงาน และด้านชีวิตส่วนตัวth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.relation.urihttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2015.134en_US
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการตลาด--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectพนักงานขาย--ความพอใจในการทำงานth_TH
dc.subjectร้านขายยา--ไทยth_TH
dc.titleแรงจูงใจในการทำงานและการลาออกจากงานของผู้แทนยาในประเทศไทยth_TH
dc.title.alternativeWorking motivation and turnover of pharmaceutical sales representatives in Thailanden_US
dc.typeThesisen_US
dc.identifier.DOI10.14457/STOU.the.2015.134-
dc.identifier.urlhttps://www.doi.org/10.14457/STOU.the.2015.134en_US
dc.degree.nameบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาวิทยาการจัดการth_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThis research aims to: (1) explore personal characteristics of pharmaceutical sales representatives (PSRs) in Thailand; (2) study work motivation of PSRs in Thailand; (3) study the importance level of work motivation of PSRs in Thailand; (4) examine relationship between personal characteristics and work motivation of PSRs in Thailand; (5) examine relationship between personal characteristics and turnover of PSRs in Thailand; and (6) examine relationship between work motivation and turnover of PSRs in Thailand. This research was a survey research. 385 samples from Thai PSRs population were collected to answer the questionnaires. For sampling process, the researcher used multistage sampling, including quota, simple random, and convenience sampling. Data were analyzed by descriptive statistics – frequency, percentage, mean, standard deviation. Hypothesizes were tested by mean difference test (t-Test) and one-way analysis of variance (one-way ANOVA). Fisher’s Least Significant Difference method (LSD) and Scheffe’s Multiple Contrast method were used for post hoc analysis. The result showed that: (1) 56.9% of respondents were female, aged between 25-35 years old. 66.8% of them were single. Respondents earned bachelor degree in Pharmaceutical Sciences and others. PSRs came from both multinational companies and local companies. Their territories were Bangkok, upcountry, and hybrid. Period of working was 1-3 years, and average total monthly income was 50,001-90,000 baht; (2) the most important factor of work motivation was advancement, and respectively followed by supervision and relationship with managers, salary, and achievement; (3) PSRs rated the importance of overall work motivation at a high level. Considering each aspect, advancement was the highest, followed by supervision, relationship with managers, salary and compensation, and achievement; (4) personal characteristics of respondents did not relate to work motivation; (5) personal characteristics – age, marital status, company type, working experiences, and total monthly income, had showed the relationship with turnover of PSRs at statistically significance at 0.05 level; and (6) the study also revealed statistically significant at 0.05 level in the relationship between work motivation and turnover of PSRs. Status, relationship with peers, supervision, and relationship with managers, company policy, working conditions, and personal life had statistically significant relationship with a turnover.en_US
dc.contributor.coadvisorศิริชัย พงษ์วิชัยth_TH
Appears in Collections:Manage-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
150208.pdfเอกสารฉบับเต็ม1.96 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons